ผบ.ตร.ชี้เหตุคนร้ายลอบยิง M79 ลง ป.ป.ช.และกองสลาก ที่นนทบุรีหลายจุดเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เคยเกิดขึ้น ส่ง “เอก อังสนานนท์-วินัย ทองสอง” ติดตามความคืบหน้า จ่อขอหมายจับหัวหน้าการ์ดองค์ดำ เหตุปะทะที่แยกหลักสี่จากศาล
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงเหตุยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ช่วงนี้ห่วงมือที่ 3 ก่อเหตุแทรกซ้อน โดยได้มอบหมาย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เข้าไปดูแล โดยเหตุล่าสุดมอบหมายให้ บช.ภ.1 ไปดูแล้ว การก่อเหตุยิงระเบิดเอ็ม79 ที่ผ่านมาหลายจุดมีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งได้ตั้งชุดทำงานขึ้นมาคลี่คลายโดยเฉพาะ
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.อดุลย์ได้สั่งการด่วนที่สุด เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา กำชับทุกหน่วยงานให้เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยบุคคลและสถานที่สำคัญ เพื่อป้องกันบุคคลและกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีก่อเหตุแทรกซ้อนหรือสร้างสถานการณ์รุนแรงนั้น ต่อมาวันที่ 22 มี.ค.เกิดเหตุเพลิงไหม้รถยนต์บริเวณซอยแจ้งวัฒนะ 13 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ ตรวจสอบพบถังแก๊สบรรจุระเบิดแสวงเครื่อง 3 ลูกอยู่ในรถยนต์ที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งแสดงถึงเหตุแทรกซ้อนและสถานการณ์ความรุนแรงว่ามีแนวโน้มกระจายไปหลายพื้นที่ เป็นที่น่าเชื่อว่าจะมีการลักลอบนำอาวุธ วัตถุระเบิด รวมทั้งส่วนประกอบระเบิดแสวงเครื่องเข้ามาจากต่างจังหวัด
ดังนั้น เพื่อให้การควบคุมอาวุธและลดความรุนแรงในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพรัดกุมมากยิ่งขึ้น ผบ.ตร.จึงได้มีการกำชับการปฏิบัติการเพิ่มเติม โดยให้ ผบก.ภ.จว.วิเคราะห์เส้นทางที่เป็นจุดล่อแหลมในการลักลอบนำอาวุธ วัตถุระเบิด และส่วนประกอบระเบิดแสวงเครื่องเข้ามาในพื้นที่กรุเทพฯ และตั้งจุดตรวจสกัดเข้มแข็งเพื่อตรวจคัดกรองบุคคล ยานพาหนะ อาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ส่วนประกอบระเบิดแสวงเครื่อง เช่น ถังแก๊ส ถังดับเพลิง ฯลฯ และสิ่งของผิดกฎหมายทุกชนิดอย่างน้อย ภ.จว.ละจำนวน 1 จุด และมอบหมาย รอง ผบก.ภ.จว.จำนวน 1 นาย ควบคุมการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด มอบหมายรอง ผบช.ภ.1 นายกำกับดูแลการปฏิบัติ และรายงานที่ตั้งจุดตรวจรวมถึงผลการปฏิบัติให้ ศปก.ศอ.รส.ทราบผ่าน ศปก.ตร.เป็นประจำทุกวัน กรณีมีการจับกุมได้ของกลางจำนวนมากหรือมีนัยสำคัญ ให้รายงานให้ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ผบ.ศปก.ศอ.รส.ทราบโดยทันที
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับคดีระเบิดรถยนต์ที่ซอยแจ้งวัฒนะ น่าจะเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่สถาบันพัฒนาข้าราชการตุลาการ และที่สำนักงานอัยการสูงสุด โดยจากการตรวจสอบสารประกอบระเบิดเป็นปุ๋ยยูเรีย ไม่ใช่แอมโมเนียมไนเตรต จึงเชื่อว่าไม่หวังผลต่อชีวิตเพียงสร้างสถานการณ์ โดยชุดสืบสวนกำลังสืบจากรถที่ก่อเหตุเนื่องจากพบว่ามีการเช่าซื้อกันหลายทอด ส่วนเหตุยิงระเบิดเอ็ม 7 ที่สำนักงาน ป.ป.ช.จำนวน 3 ครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดอยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบและสืบสวนหาสาเหตุเพิ่มเติม
โฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า คณะพนักงานสอบสวนในคดีเหตุการปะทะที่แยกหลักสี่ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งมี พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบช.น.เป็นหัวหน้า ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับนายสุเมธ หรือเม่น ตระกูลวุ่นหนู หัวหน้าการ์ด กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ กลุ่มนักรบองค์ดำ ตามที่นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือมือปืนป็อปคอร์น ให้การว่าให้ที่พักพิงหลบหนีและอยู่ในเหตุการณ์ด้วยกัน และยังเป็น 1 ใน 22 ผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจกำลังสืบสวนติดตามก่อเหตุยิงปะทะที่แยกหลักสี่แต่แรกด้วย อย่างไรก็ตาม นายสุเมธไม่ใช่ 1 ใน 4 ผู้ต้องสงสัยที่เคยขออนุมัติหมายจับในชุดแรก โดยการขออนุมัติหมายจับครั้งนี้เป็นไปตามคำให้การของนายวิวัฒน์ และพยานหลักฐานอื่นๆ ทั้งนี้จะออกหมายจับหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
