จับคลังแสงญาติเมีย “เหลิม” รับซื้อมาจากอดีตนายทหาร

กองปราบนำกำลังบุกจับคลังแสงกลางกรุง ตามหมายจับศาลตลิ่งชัน ยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนรวมทั้งระเบิดได้กว่า 10 รายการ ผู้ต้องหาสารภาพเป็นญาติภรรยา “เฉลิม” โดยซื้ออาวุธปืนมาจากอดีตนายทหาร และชอบสะสมอาวุธ บางครั้งต้องพกพาติดตัวเผื่อมีเหตุร้าย อ้างไม่เคยใช้ก่อเหตุ



วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 17.00 น. พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผกก.1 บก.ป.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป.ระดมกำลังตรวจค้นกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ กทม.ช่วงระหว่างวันที่ 10-24 มีนาคม 2557 โดย พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทพรต พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ภูวเดช ภวปรีชานนท์ พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล พ.ต.ท.ณรงค์ชัย เอกฉันท์ สว.กก.1 บก.ป.ได้นำกำลังพร้อมหมายศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ ค.13 และ 14/2557 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2557 เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 615 ถนนมาเจริญ แขวงและเขตหนองแขม กทม.และบ้านพักไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่หลังบ้านเลขที่ 623 หมู่ 11 ชุมชนซอย 99 ถนนมาเจริญ แขวงและเขตหนองแขม หลังจากสืบทราบว่าบ้านพักทั้งสองหลังดังกล่าวมีการเก็บซ่อนอาวุธสงคราม อาวุธปืนและเครื่องกระสุนหลายรายการ

จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบตัว นายไชยพร ธีมะสถิตย์ อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมอาวุธปืนขนาด .38 รวม 4 กระบอก อาวุธปืนขนาด 11 มม.อาวุธปืนขนาด .22 รูเดอร์ ปืนลูกซอง ปืนขนาด 9 มม.แมกกาซีนขนาด .45 มม.3 อัน ซองบรรจุกระสุนปืนลูกซอง ซองกระสุนปืนอาก้า ซองกระสุนปืนคาร์บิน เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ กว่า 500 นัด ระเบิดควัน 2 ลูก ภายในห้องพักของบ้านทั้งสองหลัง โดย นายไชยพร รับเป็นเจ้าของอาวุธทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบ ก่อนเชิญตัวนายไชยพร มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ บก.ป.

พ.ต.ท.ธานินทร์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รอง ผบช.ก.รักษาราชการแทน ผบก.ป.ที่สั่งการให้กำลังตำรวจ บก.ป.ระดมกวาดล้างอาชญากรรม รวมทั้งกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง ทางชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.จึงลงพื้นที่สืบสวน กระทั่งพบว่าที่บ้านพักทั้งสองหลังนี้ มีการเก็บซ่อนอาวุธปืนไว้เป็นจำนวนมาก จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายและเข้าตรวจค้นดังกล่าว โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ครอบครองเครื่องยุทธภัณฑ์ซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตให้ครอบครองได้

สอบสวน นายไชยพร ให้การว่า มีอาชีพขายอาหารทะเล ส่วนอาวุธปืนและกระสุนทั้งหมดเป็นของตน น้องชายและน้องสะใภ้ ซึ่งได้ซื้อเก็บสะสมไว้ด้วยความชอบส่วนตัว ยืนยันว่าไม่เคยนำไปใช้ก่อเหตุใดๆ เพราะส่วนตัวก็ไม่ได้มีศัตรูที่ไหน และจะเก็บไว้ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่โดยจะพกพาติดตัวไปเป็นบางครั้งเพื่อใช้ป้องกันตัวเมื่อเกิดเหตุร้าย สำหรับอาวุธปืนบางส่วนได้รับซื้อมาจากอดีตนายทหาร ที่รู้จักกัน นำมาขายให้เพราะเขาร้อนเงิน นอกจากนี้ก็มีบางส่วนที่ซื้อต่อมาจากเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง มีทะเบียนถูกต้องทั้งหมด ที่ผ่านมาก็ไม่ใช่นักเลงปืน แต่ก็ติดต่อซื้อขายกันเฉพาะกับคนในวงการที่รู้จักและสนิทสนมกัน นอกจากนี้ตนมีศักดิ์เป็นญาติกับภรรยา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.อีกด้วย แต่ก็ไม่ได้นสนิทกันกับ นายเฉลิม แต่อย่างใด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จะได้ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ของอาวุธทั้งหมด ว่าครอบครองถูกต้องหรือไม่ หรือมีความเกี่ยวพันกับการนำไปใช้ก่อเหตุที่ใดหรือไม่ เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

นอกจากนี้ กำลังฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.ป.ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าในพื้นที่ กทม.อีก 6 ราย ประกอบด้วย 1.นายศุรชา ปิ่นรุ่งโรจน์ อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ข้อหายักยอกทรัพย์ นำส่ง สภ.คูคต จ.ปทุมธานี 2.นายนพรัตน์ คงแสนเมือง อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างในเวลากลางคืน นำส่ง สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ 3.นายวิชาญ ไชยวงษ์ อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ควบคุมตัวส่ง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา

4.นายวราวุฒิ เรืองสวัสดิ์ อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ข้อหายักยอก นำส่ง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา 5.น.ส.ประภัสสร เกือสีไท อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน นำส่ง สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และ 6.จับกุมนายปิยชาติ เพ็ชรแก้ว อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม นำส่ง สน.ท่าพระ ดำเนินคดีต่อไป