ปส.จับยาบ้าบิ๊กล็อตตราสิงโตเหยียบลูกโลก คาดสูตรใหม่ผสมเฮโรอีน

บช.ปส.แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2 คดี พร้อมของกลางยาบ้ารวมเกือบ 5 แสนเม็ด ตะลึงพะยี่ห้อสิงโตเหยียบลูกโลก ที่เคยผลิตเฮโรอีน เผยไม่พบมาเป็นเวลากว่า 3 ปี ประทับหีบห่อบรรจุยาบ้า คาดมีส่วนผสมเฮโรอีน เร่งตรวจสอบเชื่อมโยงเครือข่ายยาเสพติด พ.ท.ยี่เซ หรือไม่

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (17 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปฏิบัติหน้าที่ รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผบก.สกส.บช.ปส. พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ปส. ร่วมแถลงจับกุมคดียาเสพติด จำนวน 2 คดี โดยคดีแรกมีผู้ต้องหาจำนวน 3 คน ได้แก่ นายเทอดพงษ์ แสนลี่ อายุ 27 ปี, นายสุเทพ ขจรสันติสุข อายุ 50 ปี และนางอะเล้นา แสนลี่ อายุ 48 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 54 มัด เป็นจำนวน 108,000 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีดำ ทะเบียน ผร 5536 เชียงใหม่ ที่ใช้บรรทุกยาเสพติด, รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ผพ 8622 เชียงใหม่ และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง โดยจับได้ที่ถนนปาย-แม่เเตง ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ต่อเนื่องถนนสายปาย-แม่แตง ต.สบ เปิง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม เวลา 15.30 น.

พล.ต.ต.ทนัยกล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจชุดสอบสวนสืบทราบว่านายเทอดพงษ์กับพวก จะใช้รถยนต์ของกลางทั้ง 2 คันลักลอบขนยาบ้าจากภาคเหนือไปส่งให้กลุ่มนักค้ายาภาคกลางในวันที่ 14 มี.ค. จึงเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณจุดเกิดเหตุ กระทั่งพบรถยนต์ของกลางทั้งสองขับผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงขับรถยนต์ติดตามพร้อมแสดงตัวขอตรวจค้นรถของนายเทอดพงษ์ พบยาบ้า 54 มัด จำนวน 108,000 เม็ดซุกซ่อนอยู่ภายใน จากนั้นจึงติดตามจับกุมนายสุเทพ และนางอะเล้นาได้ในเวลาต่อมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป

คดีที่ 2 จับกุมนายอนุชิต ดำรงสิริวงค์ หรือแซ่ยั้ง หรือตี๋ อายุ 37 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 340,000 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า ทะเบียน บบ 5469 ลำพูน รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน ผพ 7763 เชียงใหม่ โทรศัพท์มือถืิอ 2 เครื่อง โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณถนนสายศรีดงเย็น-ป่า ฮิ้น เขตบ้านแดนดิน หมู่ที่ 10 ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม เวลา 03.20 น.

พล.ต.ต.ทนัยกล่าวว่่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่านายพิษณุ แสงสว่าง มี พฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาบ้าจากทางภาคเหนือไปส่งให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถกระบะ 2 คันเป็นพาหนะในการลำเลียง และจะมีการส่งยากันในวันที่ 14 มีนาคม เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตการณ์จนถึงเวลาที่เกิดเหตุรถกระบะสองคันดังกล่าวได้ขับผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามไปแต่รถกระบะทั้งสองคันพยายามขับรถหลบหนี กระทั่งรถกระบะมิตซูบิชิเกิดอุบัติเหตุและนายพิษณุหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงตรวจค้นรถคันดังกล่าวพบยาบ้าดังกล่าว จากนั้นจึงติดตามจับกุมนายอนุชิตคนขับรถกระบะโตโยต้าซึ่งใช้นำทาง และจากการสอบสวนนายอนุชิตให้การรับสารภาพว่าได้รับการติดต่อจากนายพิษณุให้นำทางในการลำเลียงยาบ้าครั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะนำตัวพร้อมกลางส่งพนักงานสอบเพื่อดำเนินคดี ส่วนนายพิษณุนั้นทางเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับต่อไป

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า จากการตรวจสอบหีบห่อบรรจุภัณฑ์ในคดีนี้พบว่ามีตราสิงโตเหยียบลูกโลกอยู่บนหีบห่อ ซึ่งน่าแปลกใจเนื่องจากตราสัญลักษณ์นี้เดิมเป็นตราของกลุ่มผู้ผลิตเฮโรอีน อีกทั้งตราดังกล่าวยังไม่ได้พบเห็นมาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว น่าสังเกตว่าการที่มีตราสัญลักษณ์ดังกล่าวประทับอยู่บนหีบห่อของยาบ้านอาจมีการใช้สารบางตัวซึ่งเป็นส่วนผสมเดียวกันกับเฮโรอีน อย่างไรก็ตามจะนำไปตรวจสอบต่อไป ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ายาบ้าดังกล่าวน่าจะมาจากโรงงานในเครือข่ายของ พ.ท.ยี่เซ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเพื่อหาปลายทางของยาบ้าต่อไป

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวอีกว่า การตรวจสอบผู้ต้องหาทั้ง 4 คนในครั้งนี้ พบว่าเป็นชาวเขา เผ่าลีซอ ซึ่งทั้ง 4 คนพูดไทยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ทั้ง 4 คนกลับมีบัตรประชาชน จึงอยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ให้ช่วยกวดขันและช่วยตรวจสอบเบื้องต้นกรณีจะออกบัตรประชาชนให้คนเหล่านี้ เพื่อเป็นการช่วยตำรวจอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม กรณีที่จับผู้ต้องหาจำนวน 9 คน พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 3,000,000 เม็ด ซึ่งมีสัญลักษณ์บนหีบห่อบรรจุเป็นตราเพชร เมื่อวันที่ 15-16 มีนาคมที่ผ่านมานั้น เมื่อนำยาบ้าของกลางดังกล่าวไปตรวจสอบที่ห้องแล็บพบว่าเป็นของ พ.ท.ยี่เซเช่นเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนตราสัญลักษณ์ใหม่เท่านั้น ซึ่งจะต้องมีการติดตามจับกุมขบวนการดังกล่าวต่อไป