ผบช.สตม.แถลงข่าวจับกุมแรงงานต่างด้าว จ.สงขลา จำนวน 220 คน ลักลอบเข้าเมืองมาทำงานโดยผิดกฎหมาย
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม.กล่าวถึงกรณีที่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 6 (ตม.6) ได้เข้าควบคุมชาวต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 220 คน ที่บริเวณสวนยางพารา หมู่ 10 บ้าน คลองต่อ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยกลุ่มบุคคลต่างด้าวทั้งหมด อ้างว่าเดินทางมาจากประเทศตุรกีโดยผ่านทางเรือ และจะเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้มีกระแสข่าวว่ากลุ่มต่างด้าวนี้น่าจะเป็นชาวมุสลิมอุยกูร์ สัญชาติจีน ที่อาศัยอยู่บริเวณเขตปกครองซินเกียง ประเทศจีน ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากผู้ที่ถูกจับกุมยังไม่ยินยอมให้การแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่จึงได้นำล่ามของประเทศตุรกี และประเทศจีนไปเพื่อพิสูจน์ทราบว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นคนเชื้อชาติใดกันแน่ ซึ่งในตอนนี้ผู้ที่ถูกจับเริ่มพูดคุยบ้างแล้ว แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติใด ตม.จะต้องดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง โดยให้เจ้าหน้าที่เจ้าของท้องที่ดำเนินการฟ้องศาล ซึ่งปกติศาลจะกรุณาปรับ และให้เด็กและสตรีอยู่ในความดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนผู้ชายที่พ้นผู้เยาว์แล้วก็นำตัวมาไว้ในห้องกักของ สตม.โดยระหว่างที่ควบคุมตัว เจ้าหน้าที่จะต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นคนสัญชาติใดมาจากไหน ถ้าพิสูจน์ได้แล้วก็จะประสานประเทศนั้นมารับตัวกลับต่อไป
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม.กล่าวถึงกรณีที่เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 6 (ตม.6) ได้เข้าควบคุมชาวต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 220 คน ที่บริเวณสวนยางพารา หมู่ 10 บ้าน คลองต่อ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยกลุ่มบุคคลต่างด้าวทั้งหมด อ้างว่าเดินทางมาจากประเทศตุรกีโดยผ่านทางเรือ และจะเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้มีกระแสข่าวว่ากลุ่มต่างด้าวนี้น่าจะเป็นชาวมุสลิมอุยกูร์ สัญชาติจีน ที่อาศัยอยู่บริเวณเขตปกครองซินเกียง ประเทศจีน ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากผู้ที่ถูกจับกุมยังไม่ยินยอมให้การแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่จึงได้นำล่ามของประเทศตุรกี และประเทศจีนไปเพื่อพิสูจน์ทราบว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นคนเชื้อชาติใดกันแน่ ซึ่งในตอนนี้ผู้ที่ถูกจับเริ่มพูดคุยบ้างแล้ว แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นคนเชื้อชาติใด ตม.จะต้องดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง โดยให้เจ้าหน้าที่เจ้าของท้องที่ดำเนินการฟ้องศาล ซึ่งปกติศาลจะกรุณาปรับ และให้เด็กและสตรีอยู่ในความดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนผู้ชายที่พ้นผู้เยาว์แล้วก็นำตัวมาไว้ในห้องกักของ สตม.โดยระหว่างที่ควบคุมตัว เจ้าหน้าที่จะต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นคนสัญชาติใดมาจากไหน ถ้าพิสูจน์ได้แล้วก็จะประสานประเทศนั้นมารับตัวกลับต่อไป