บีบีซี - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯในวันอังคาร (4 มี.ค.) เพิ่งออกมาประณามเหตุกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธมีดไล่ฟันแทงผู้คนเสียชีวิตกลางสถานีรถไฟในเมืองคุนหมิงของจีน 29 ศพ ว่าเป็น “การกระทำก่อการร้าย” หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสองมาตรฐาน
คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มีออกมาหลังจากวอชิงตันถูกซินหวา สื่อทางการจีนกล่าวหาว่าสองมาตฐาน ด้วยตอนแรกลังเลในการใช้ถ้อยคำดังกล่าว นอกจากพวกเขายังกล่าวหาสื่อมวลชนตะวันตกมีอคติที่ไม่ใช้คำว่า “ก่อการร้าย” กับโศกนาฏกรรมครั้งนี้
เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนประณามกลุ่มแบ่งแยกดินแดนจากมณฑลซินเจียงซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ ที่คนร้าย 8 คนไล่แทงผู้คนโดยไม่เลือกหน้าบริเวณสถานีรถไฟของเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ ช่วงค่ำวันเสาร์ (1) ทั้งนี้มีชาวบ้านกว่า 130 คนได้รับบาดเจ็บระหว่างเหตุจู่โจมและในนั้นมีถึง 20 รายที่อาการยังสาหัสอยู่
สำนักข่าวซินหวารายงานว่า คนร้าย 4 คนถูกตำรวจยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุและสามารถจับกุมผู้หญิงต้องสงสัยคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บในวันเดียวกัน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่เหลืออีก 3 คนถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันจันทร์ (3)
ในปฏิกิริยาตอบสนองเบื้องต้น สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่ง ให้คำจำกัดความเหตุโจมตีว่า “น่าสยดสยอง และเป็นการกระทำรุนแรงที่ไร้สติ”
ปฏิกิริยาดังกล่าวก่อความขุ่นเคืองแก่สื่อมวลชนแห่งรัฐของจีน โดยซินหวาถึงกับระบุนี่คือหลักฐานที่เผยให้เห็นว่าการต่อสู้ก่อการร้ายทั่วโลกมีอยู่สองมาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ยอมรับว่า เหตุการณ์กลุ่มคนร้ายใช้มีดจ้วงแทงประชาชนที่เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน มีลักษณะเข้าข่ายเป็นการก่อการร้ายที่มีเป้าหมายคือประชาชนโดยไม่เลือกหน้า พร้อมแสดงความเสียใจไปยังเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย และบอกว่าสหรัฐฯ ยังคงยืนหยัดต่อต้านการก่อการร้ายทุกรูปแบบที่พุ่งเป้าไปยังผู้บริสุทธิ์
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (3) บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี ได้วิพากษ์วิจารณ์สื่อตะวันตกว่ามีอคติต่อการบรรยายเหตุโจมตีดังกล่าว “แล้วทีนี้ทำไมพวกคุณถึงไม่พูดถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนบ้างล่ะ พวกคุณเห็นภาพเหยื่อที่นอนรวยรินจมกองเลือดหรือเปล่า กลับกันถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ไม่ว่าจะมีคนตายมากน้อยแค่ไหน คุณจะแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร และพวกคุณจะยังใจแคบไม่ยอมใช้คำจำกัดความก่อการร้ายหรือเปล่า”