ปส.จับกุมยาเสพติด 2 คดี คดีแรกรวบ 2 ผู้ต้องหา พร้อมยาบ้าเฉียด 7 หมื่นเม็ด ส่วนอีกคดีล่อซื้อยาไอซ์ 10 กิโลกรัม จากชาวพม่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาจำหน่ายยาเสพติด พร้อมเร่งขยายผลจับกุมและดำเนินการยึดทรัพย์เครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป
วันนี้ (8 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผบช.ปส.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผบก.ปส.4 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนปราบปรามยาเสพติด แถลงข่าวจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด โดยคดีแรกจับกุม น.ส.ทิพวรรณ ธารายศ หรือ ติ๊ก อายุ 28 ปี และ นายชุมพล จันทร์เพชร อายุ 46 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 66,000 เม็ด ยาไอซ์ 4 กิโลกรัม กระเป๋าเดินทาง และอุปกรณ์การเสพยาเสพติด ซึ่งจับกุมตัวได้ที่บริเวณสวนลองกอง หลังบ้านเลขที่ 2 ม.3 ต.บ้านยาง อ.ศีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า ตำรวจได้ขยายผลจากการจับกุมตัว นายกิตติศักดิ์ หรือ ต้น ธารายศ พร้อมของยาไอซ์ประมาณ 2 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2554 โดยเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมเครือข่ายค้ายาเสพติดของ นายกิตติศักดิ์ เป็นเวลานานเกือบ 2 ปี จนสืบทราบว่า น.ส.ทิพวรรณ น้องสาวของ นายกิตติศักดิ์ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามตัว และทราบว่ามีการนัดหมายส่งมอบยาที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้า เทสโก้ โลตัส จ.สุราษฎร์ธานี โดยใช้รถยนต์โตโยต้า วีออส หมายเลขทะเทียน 3020 สุราษฎร์ธานี เป็นยานพาหนะ มีนายกิตติพจน์ หรือ เมส อ่อนทอง สามีของ น.ส.ทิพวรรณ เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว กระทั่งเวลานัดหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าสังเกตการณ์ พบรถคันดังกล่าวขับมาจริงตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนเพื่อขอตรวจค้นและจับกุม ซึ่งจากการสะกดรอยตามรถคันดังกล่าวไป พบว่าขับไปจอดที่บริเวณปั๊มน้ำมันใกล้เคียง และนายกิตติพจน์ ได้ส่งมอบกระเป๋าเดินทางไปยังท้ายรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ณต 9029 กทม. ที่มีนายชุมพล จันทร์เพชร เป็นผู้ขับขี่ จากนั้นรถยนต์ทั้งสองคันได้ขับตามกันไปยังบ้านเลขที่ 2 ม.3 ต.บ้านยาง อ.ศีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเห็นว่า นายชุมพล พร้อมกับรถกระบะขับออกมาจากบ้านดังกล่าว จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น และจากการตรวจสอบรถกระบะ และกระเป๋าเดินทาง ปรากฏว่าเป็นกระเป๋าเปล่า เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ พบ น.ส.ทิพวรรณ ยอมรับว่ากระเป๋าดังกล่าวเป็นของนายกิตติพจน์ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นภายในบ้าน พบของกลางยาบ้า 30,000 เม็ด ยาไอซ์ 4 กิโลกรัม นอกจากนี้ ที่บริเวณสวนลองกองของบ้าน ยังพบยาบ้าที่ซุกซอนด้วยการฝังดินไว้อีกจำนวนหนึ่ง ส่วนนายกิตติพจน์ สามารถหลบหนีไปได้
จึงแจ้งข้อหาร่วมกับพวกที่ยังหลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์ ) และยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีและขยายผลจับกุม ยึดทรัพย์สินบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป
คดีที่สอง ตำรวจ ปส.จับกุม นางนาน คินลา อายุ 48 ปี สัญชาติพม่า และ นายโจ อำแดง อายุ 35 ปี สัญชาติพม่า พร้อมของกลางยาไอซ์ 10 กิโลกรัม รถยนต์มาสด้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ชธ 8742 กทม.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง สามารถจับกุมได้ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า มีกลุ่มชาวเขาลักลอบขนยาเสพติดมาพักไว้ที่ จ.ปทุมธานี หรือเขตพื้นที่ปริมณฑล ต่อมาสายลับได้ติดต่อล่อซื้อยาไอซ์ จำนวน 10 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 965,000 บาท โดยนัดดูเงินกันก่อนที่บริเวณริมถนนหน้าโรงแรมอมารี เรสซิเดนซ์ ซอยศูนย์วิจัย มีนางนาน คินลา ลูกน้องของนายปี มาตรวจดูเงินที่ใช้ในการซื้อขายยาเสพติด ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับการติดต่อจากนายปี ให้มารับยาเสพติดที่บริเวณห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่มาถึงที่หมายพบนายโจ อำแดง ลงมาจากรถยนต์มาสด้า จึงแสดงตัว และตรวจสอบพบยาไอซ์บรรจุอยู่ในห่อชาเขียวสีทองตัวหนังสือภาษาจีน ห่อละ 1 กิโลกรัม มี จำนวน 10 ห่อ โดยซุกซ่อนไว้บริเวณท้ายรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวนายโจ อำแดง และแจ้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการอีกชุดจับกุมนางนาน คินลา ผู้นับเงิน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
