ปคบ.เปิดโครงการ “อาสาสมัครปกป้องคุ้มครองผู้บริโภค”

ผบก.ปคบ.แถลงข่าวเปิดโครงการ “อาสาสมัครปกป้องคุ้มครองผู้บริโภค” ลดปริมาณการร้องเรียนการกระทำความผิดด้านการคุ้มครองผู้บริโภค

วันนี้ (7 มี.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.นรศักดิ์ เหมนิธิ ผบก.ปคบ.พร้อมด้วย นายกฤตภนธ์ ธีรชินคุณ ผู้บริหารบริษัท อินโนวาแลป จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวเปิดโครงการ “อาสาสมัครปกป้องคุ้มครองผู้บริโภค” หรือ อปคบ. เพื่อแสวงหาความร่วมมือจากผู้ประกอบการธุรกิจประเภทต่างๆ และภาคประชาชน เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ลดปริมาณการร้องเรียนการกระทำความผิดด้านการคุ้มครองผู้บริโภค

พล.ต.ต.นรศักดิ์กล่าวว่า สำหรับที่มาของโครงการดังกล่าวนั้นเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ที่เน้นย้ำเรื่องการแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชน เพราะประชาชน คือ ตำรวจคนแรก ซึ่งในส่วนของ บก.ปคบ.นั้น มีหน้างานที่กว้าง และต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.), สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) รวมไปถึงกรมวิชาการเกษตร , กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เหล่านี้เป็นต้น ทำให้กำลังเจ้าหน้าที่อาจไม่เพียงพอรองรับกับการดำเนินงานต่างๆ ที่มีมากมายหลายด้าน กล่าวได้ว่าขณะนี้ก็มีงานล้นมือ

พล.ต.ต.นรศักดิ์กล่าวต่อว่า โครงการนี้จะเปิดอบรมตลอดระยะเวลา 1 ปี เริ่มต้นในวันที่ 3 เมษายนนี้ โดยเปิดอบรมทุกวันพฤหัสบดี สัปดาห์แรกของเดือน เปิดรับรุ่นละ 300-400 คน มีเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ความรู้เรื่องกฎหมายเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค การสังเกตุผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่วางจำหน่ายในท้องตลาด การดำเนินงานของภาคธุรกิจ เช่น ธุรกิจขายตรงแบบเครือข่าย หรือเอ็มแอลเอ็ม การโฆษณาสินค้าผ่านรายการโทรทัศน์ระบบเคเบิ้ลทีวี ฯลฯ โดยคาดว่าหวังว่าจะมีเครือข่ายด้านการคุ้มครองผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และหากโครงการประสบความสำเร็จก็จะขยายไปยังส่วนภูมิภาคต่อไป

ผบก.ป.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทาง บก.ปคบ.ก็มีการพัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านการคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งมีมากในแต่ละวัน ทั้งการปรับปรุงเว็บไซต์ www.cppd.go.th ปรับปรุงเรื่องสายด่วน ปคบ.1135 และต่อไปจะพัฒนาห้องสายด่วนที่รับเรื่องราวตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนโครงการที่จะดำเนินการนั้นจะคล้ายกับโครงการกองปราบอาสา มีการเชิญชวนผู้ประกอบการมาร่วมอบรม สร้างเครือข่ายแสวงหาความร่วมมือในการทำงาน เราคาดหวังว่าอย่างน้อยเขาเหล่านี้ก็ตอบคำถามประชาชนเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคได้ เราอบรมเข้ม 1 วัน มีวิทยากรจากทั้งเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ และภาคเอกชน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

ด้านนายกฤตภนธ์ระบุว่า ภายหลังดำเนินโครงการนี้แล้วทาง บก.ปคบ.และภาคเอกชนที่ร่วมโครงการมีความคาดหวังว่าน่าจะชะลอปริมาณการแจ้งความร้องเรียนด้านการคุ้มครองผู้บริโภคได้มาก เนื่องจากจะเน้นเรื่องการให้ความรู้ด้านกฎหมาย แนวทางการปฏิบัติของผู้ประกอบการธุรกิจ ความรู้ในการป้องกันปัญหา สามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการถูกเอารัดเอาเปรียบด้านการคุ้มครองผู้บริโภค นำผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ซึ่งเมื่อผ่านการอบรมจากโครงการดังกล่าวก็จะมีการออกใบประกาศรับรองให้ด้วย