DSI ร่วมกับกรมการกงสุล ช่วยเหลือหญิงไทยที่ไปทำงานนวดแผนไทยที่สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ หลังถูกลวงให้ไปทำงานโดยไม่รับค่าจ้าง และมีหนี้สินเพิ่มขึ้นจนถูกข่มขู่รายวัน
วันนี้ (27 ก.พ.) ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย พ.ต.ต.จตุพร อรุณฤกษ์ถวิล ผอ.ปป.2 ศคม. หัวหน้าคณะทำงานสืบสวน นายศรัณย์พงศ์ ฟุ้งเกียรติ พสพ.ชพ.รองหัวหน้าคณะทำงานสืบสวน น.ส.พัชรี แนวพานิช ผอ.ส่วนช่วยเหลือเหยื่อชาวไทย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และนางสาวพัฒน์ชนะสรณ์ สุขใย หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา 7 ศูนย์ประสานการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กรมการปกครอง และองค์กรปราบปรามการค้ามนุษย์ (CTU) เดินทางมารับตัว นางสายันต์ สารินา อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งถูกชักชวนจากนายหน้าในประเทศไทย โดยผ่านระบบอินเทอร์เน็ตให้ไปทำงานเป็นหมอนวดแผนไทย ในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ กลับประเทศไทยตามคำร้องขอของอดีตสามีที่อยู่ในประเทศไทย โดยเดินทางมากับเที่ยวบิน EK384 สายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์
โดยเมื่อมาถึง นางสายันต์ ได้เข้าสวมกอดกับนางภาวินี ศรีดีเอี่ยม หญิงไทยที่ทำงานเป็นหมอนวดแผนไทยในสถานที่ทำงานเดียวกันแต่กลับมาได้ก่อนหน้านี้ รวมทั้งยังได้ประสานให้ DSI ช่วยพาน้องสาวกลับมาเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน ช่วยเหลือกลับมาก่อนหน้านี้ โดย นางสายันต์ ยังคงอยู่ในอาการตกใจและและไม่อยากเปิดเผยใบหน้า เนื่องจากเกรงจะได้รับอันตราย รวมถึงไม่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พูดแต่เพียงว่า ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ ให้กลับบ้านได้
ด้าน พ.ต.ต.จตุพร อรุณฤกษ์ถวิล ผอ.ปป.2 ศคม.หัวหน้าคณะทำงานสืบสวน DSI กล่าวว่า ขณะนี้หญิงไทยคนดังกล่าวยังอยู่ในอาการตกใจ เบื้องต้นทราบว่า ไปทำงานร้านนวดแผนไทยที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ได้ประมาณ 1 ปี 4 เดือน และหลังจากที่ DSI ได้ฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังในการเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศ สามีของนางสายันต์ ก็ได้ติดต่อมาให้ทาง DSI ให้การช่วยเหลือภรรยา ที่อยู่ที่ร้านนวดแห่งนั้น เนื่องจากไม่ได้รับเงินค่าจ้างและยังมีหนี้สินเพิ่มขึ้น ภรรยามีความกดดัน และต้องการกลับเมืองไทย ได้ประสานการช่วยเหลือกับกรมการกงสุลและสถานทูต เข้าให้การช่วยเหลือก่อนส่งกลับพร้อมประสานมายัง บก.ตม.2 เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าประเทศด้วย โดยในขั้นตอนต่อไป กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จะดำเนินการประสานทีม สหวิชาชีพ เพื่อร่วมกันสัมภาษณ์คัดแยกผู้ที่เดินทางกลับมาว่า จะอยู่ในข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ อย่างไร ซึ่งจะต้องติดตามผลการดำเนินการในส่วนนี้ต่อไป และขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ อยู่ในขั้นตอนที่สรุปผลการสืบสวน เพื่อขอรับเป็นคดีพิเศษตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการช่วยเหลือหญิงไทยนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมการกงสุล กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมการปกครอง และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้เคยประสานการช่วยเหลือหญิงชาวไทยเดินทางกลับไทยมาเรียบร้อยแล้วจำนวน 1 คน เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ชื่อ นางรุ่งรัศมี ศรีดีเอี่ยม ตามคำร้องขอ จากนางภาวินี ศรีดีเอี่ยม พี่สาว ให้ช่วยประสานการช่วยเหลือน้องสาว ซึ่งถูกชักชวนจากนายหน้าในประเทศไทย เมื่อประมาณเดือนตุลาคม2556 โดยผ่านระบบอินเทอร์เน็ตให้ไปทำงานเป็นพนักงานนวดแผนไทย ในประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ แต่เมื่อไปถึงกลับถูกหญิงไทยที่เป็นเจ้าของร้านกับพวกเก็บหนังสือเดินทาง และแจ้งว่าเป็นหนี้สินเจ้าของร้านจำนวนหนึ่ง แต่หากจะเดินทางกลับจะต้องใช้ชดใช้เงินหรือทำงานชดใช้หนี้สินให้หมดก่อน จึงได้ร้องขอผ่านกรมการกงสุล เพื่อช่วยเหลือให้น้องสาวจนกระทั่งสามารถเดินทางกลับมาประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีหญิงไทยที่เสียชีวิตในประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ นั้น ได้มีการประสานจนสามารถนำศพกลับมาประเทศไทยแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. 2557 และอยู่ระหว่างประสานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อทราบผลการพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตตามที่ญาติได้ร้องขอไว้