เกิดเหตุหนุ่มใต้ช่วยแม่ขายของหน้ารามฯ ถูกคนร้ายรุมแทงและใช้มีดปังตอฟันศรีษะเสียชีวิต ข้างศพพบถุงบรรจุยาบ้า 18 เม็ด สอบสวนพยานเหตุการณ์ระบุก่อนเกิดเหตุผู้ตายปิดร้านและนั่งคุยกับเพื่อนก่อนจะมีเสียงดัง "เอางานกูคืนมา" ก่อนผู้ตายถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ตร.คาดปมหักเรื่องยาเสพติดเนื่องจากผู้ตายมีประวัติเกี่ยวพันยาเสพติด
เมื่อเวลา 22.30 น. วานนี้ (26 ก.พ.) พ.ต.ท.พลกฤต ธรรมสาส์น พนักงานสอบสวนผู้ชํานาญ การรับแจ้งชายถูกทําร้ายเสียชีวิตในซอย รามคําแหง41/1 ถ.รามคําแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุด ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมพ.ต.อ.สาโรจน์ซุ่นทรัพย์ รองผบก.น.4 พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผบก.น.4 พ.ต.ท.โสภณ ยานธรรม รองผกก.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดบริเวณหน้าสถาบันกวดวิชา บาลานซ์(ติวเตอร์หมู) เลข ที่2113/13 พบศพชายนอนเสียชีวิตในสภาพ นอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีนํ้าตาล กางเกงยีนขายาวสีนํ้าเงิน พบบาดแผลถูกของมีคมฟัน ที่ศีรษะเป็นแผลเหวอะหวะรอบศีรษะกะโหลกเปิด บาดแผลที่คอท้ายทอยและแผ่นหลัง ถูกแทงด้วยของมีคมหลาย 10 แผล ต่อมาทราบชื่อนายสมโภชน์ สนสมบัติ อายุ31 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช มีอาชีพช่วยแม่ขายของ จําพวกเสื้อผ้า กางเกงใน แว่นตา ซึ่งตั้งแผงอยู่บริเวณหน้า ร้านสะดวกซื้อปากซอยรามคําแหง 41 โดยใกล้กับศพนั้น ยังพบกล่องเหล็กซึ่งด้านในมี ถุงบรรจุยาบ้าจํานวน 18 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าก่อนเกิดเหตุ ประมาณ22.00 น. ผู้ตายพร้อมกลุ่มชายประมาณ 5 คน มานั่งคุยกันอยู่ที่หน้าสถาบันกวดวิชา บาลานซ์ ซึ่งขณะนั้นได้ปิดร้านแล้ว โดยคุยกันอยู่ประมาณ 20 นาที ก่อนที่จะมีคนเดินแยกไป จากนั้นก็มีเสียงตะโกน “เอางานกูมา”ก่อนที่ชายสองคนซึ่งยังอยู่กับผู้ตาย โดยคนที่มีรูปร่างท้วมใช้ของมีคมจ้วงแทง ส่วนผู้ตาย พยายามต่อสู้แต่ก็มีชายอีกคนลักษณะถือมีดปังตอกระหนํ่าฟันที่ศีรษะจากด้านหลัง ซึ่งยังมีชายอีกหนึ่งคนยืน ดูเหตุการณ์กระทั่งผู้ตายถูกชายทั้งสองรุมทําร้าย จนล้มนอนกับพื้น กลุ่มผู้ต้องหาจึงหลบหนีไป
พ.ต.อ.สาโรจน์กล่าวว่า สําหรับสาเหตุคาดว่าน่าจะขัด แย้งเรื่องยาเสพติดเนื่องจากตรวจสอบที่เกิดเหตุพบยาเสพติดซึ่งเป็นยาบ้าตกอยู่ใกล้กับศพ จํานวน 18 เม็ด โดยnน่าจะหล่นระหว่างต่อสู้และถูกทําร้าย ขณะเดียวกันผู้ตายมีประวัติถูกจับกุมคดีเสพยาเสพติด เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจ สอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถบันทึกภาพกลุ่มคนร้ายขณะก่อเหตุได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังสั่งการให้ ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาพยานหลักฐาน และภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆเพิ่มเติม เพื่อเป็นเบาะแสในการจับ กุมคนร้ายมาดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป