ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผบ.ตร.ยอมรับว่าหน่วยความมั่นคงเตรียมพิจารณากลับไปใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงดูแลผู้ชุมนุม ระบุข้อมูลตรงทหารกลุ่มบุคคลปี 53 ก่อเหตุป่วน ยัน ตร.เร่งรัดทำคคดีไม่ล่าช้า จับไม่ได้เพราะข้อจำกัดเยอะ
วันนี้ (25 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่วัดตรีทศเทพ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ส.ต.ต.ศราวุฒิ ชัยปัญหา ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่วัดตรีทศเทพ ก่อนจะนำศพไปสวดพระอภิธรรมที่วัดกระทิงลาย ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดย ส.ต.ต.ศราวุฒิถูกยิงที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างเหตุรุนแรงบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนจะสิ้นใจอย่างสงบเมื่อวานนี้ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรับดูแลครอบครัวของ ส.ต.ต.ศราวุฒิ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.5 ล้านบาท และปูนบำเหน็จ 4 ชั้นยศให้เป็นดาบตำรวจ
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ทางตำรวจได้พูดคุยกับทางฝ่ายความมั่นคงโดยตลอด อยู่ระหว่างพิจารณากลับไปใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในการดูแลการชุมนุมกลุ่มต่างๆ หลังมีการก่อเหตุความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และลุกลามไปยังต่างจังหวัด ซึ่งจากการข่าวพบว่ากลุ่มที่ก่อเหตุในขณะนี้เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุช่วงการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของผู้บัญชาการทหารบก แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ จะเป็นกลุ่มการเมืองหรือไม่ก็ตอบไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาหลายฝ่ายมองว่าการทำงานของตำรวจล่าช้าไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า บางคดีก็สามารถเดินไปได้ เช่น คดีปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สามารถออกหมายจับได้ แต่ต้องเข้าใจว่าที่เรายังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้เพราะมีข้อจำกัดในหลายๆ อย่าง แต่ละคดีไม่ได้ง่าย ต้องใช้เวลา ผู้ก่อเหตุเมื่อก่อเหตุแล้วก็ออกนอกพื้นที่ออกนอกประเทศ ยืนยันว่าตำรวจจะพยายามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวอีกว่า ส่วนการจับกุมอดีตหน่วยซีลขนอาวุธสงครามที่จังหวัดระยอง ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุทางการเมืองแต่อย่างได ขณะที่กรณีการลอบยิงและเสียงดังคล้ายระเบิดที่แยกศาลาแดง พื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.สีลม เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ตำรวจนครบาลเข้าไปดูแลคดีนี้แล้ว และกำชับให้ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการตั้งจุดตรวจค้นอาวุธให้มากขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่ใกล้เคียงกับพื้นที่การชุมนุมทุกเวทีหลังมีการนำอาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่