พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ด.ต.ที่เสียชีวิต

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ด.ต.เพียรชัย ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนสะพานแยกผ่านฟ้าพร้อมปูนบำเหน็จชั้นยศให้เป็น พ.ต.ต.รับบุตรสาวทั้งสองบรรจุเข้ารับข้าราชการตำรวจต่อไป

วันนี้ (19 ก.พ.) ที่ศาลา 5/1 วัดตรีทศเทพ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เดินทางมาเป็นประธานพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ด.ต.เพียรชัย ภารวัตร ผบ.หมู่ ป.สภ.ห้วยโป่ง จ.ระยอง ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ขอคืนพื้นที่ถนนราชดำเนิน บริเวณสะพานผ่านฟ้า เมื่อวานที่ผ่านมา ก่อนจะนำศพไปสวดพระอภิธรรมที่วัดห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะรับดูแลครอบครัวของ ด.ต.เพียรชัย พร้อมปูนบำเหน็จชั้นยศให้เป็น พ.ต.ต.และมอบเงินช่วยเหลือรวม 1,800,000 บาท ส่วน ด.ญ.ชุติกาญจน์ ภารวัตร อายุ 15 ปี และ ด.ญ.สุทธินี ภารวัตร อายุ 12 ปี ลูกสาวทั้งสองจะให้บรรจุเข้ารับข้าราชการตำรวจต่อไป

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เข้าขอคืนพื้นที่วันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา นำไปสู่ความสูญเสียของตำรวจและประชาชน ทำให้จำเป็นต้องมีการทบทวนในเรื่องของยุทธวิธีการปฏิบัติงานในครั้งต่อไปให้รอบคอบ โดยคำนึงถึงหลักความปลอดภัยของตำรวจและผู้ชุมนุม ส่วนเรื่องที่มีเสียงสะท้อนจากตำรวจชุดควบคุมฝูงเกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ที่มีเพียงโล่กับกระบองเท่านั้น ทางตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนต้องทำหน้าที่ด้วยหลักกฎหมายและคำนึงถึงความเป็นคนไทยด้วยกัน

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีภาพตำรวจถือปืนสั้นและปืนยาว ปรากฏทางสื่อมวลชนนั้น ตนยอมรับว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีชุดคุ้มกันที่พกพาอาวุธ เพื่อคอยเฝ้าระวังหลังแนวชุดควบคุมฝูงชนแถวหน้าจริง แต่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีการใช้ปืนยิงในจุดใดบ้าง ส่วนกรณี ด.ต.ธีรเดช เล็กภู่ ผบ.หมู่ ป.สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี ที่ใช้เท้าเตะระเบิดจนทำให้ขาทั้งสองได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่กล้าหาญ และเสียสละในการช่วยเหลือเพื่อนตำรวจ

ด้าน นางพรพิมล ภารวัตร ภรรยาของ ด.ต.เพียรชัย กล่าวว่า อยากให้เหตุการณ์ทั้งหมดหยุดโดยเร็ว เพื่อจะได้ไม่มีใครต้องมาตายหรือสูญเสียเช่นนี้อีก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำศพ ด.ต.เพียรชัย เคลื่อนออกจากวัดตรีเทพ ไปบำเพ็ญกุศลยังวัดห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยองต่อไป