ศรส.แถลงสรุปภารกิจคืนความสงบ กทม.ขอคืน 5 พื้นที่สำเร็จ 2 จุดที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ และที่กระทรวงพลังงาน จับกุมผู้ต้องหาได้ 144 ราย ยังปากดีอ้างการสลายการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้า ใช้ตำรวจควบคุมฝูงชน ไม่มีอาวุธ ใช้การเจรจาเป็นหลัก ยืนยันไม่มีการใช้กระสุนจริง มีการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนตามขั้นตอน ส่วนคนยิงเอ็ม 79 นั้นไม่ยืนยันว่าเป็นใคร
วันนี้ (18 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่ ศรส.ได้แจ้ง ปชช.ว่าวันนี้มีภารกิจคืนความสงบ กทม.โดยภารกิจนี้มุ่งเน้นจับกุมบุคคลผู้ถูกออกหมายจับ และเปิดพื้นที่ให้ข้าราชการเข้าทำงาน รวมทั้งประชาชนได้ใช้เส้นทางสัญจรได้ตามปกติ โดยมีภารกิจขอคืน 5 พื้นที่ ได่แก่ ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ แยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กระทรวงพลังงาน และกระทรวงมหาดไทย โดย 2 พื้นที่ที่เปิดให้ข้าราชการทำงานได้คือ ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ มีการเจรจา กดดันอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเปิด ถ.แจ้งวัฒนะ ให้สามารถสัญจรได้ ข้าราชการเข้าทำงานได้ ขณะที่กระทรวงพลังงาน สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 144 ราย เป็นชาย 96 หญิง 48 เป็นแกนนำ 2 ราย คือ นายระวี มาศฉมาดล และนายทศพล แก้วทิมา ส่วนอีก 3 พื้นที่เจ้าหน้าที่เข้าไปเจรจา เข้าไปกดดันไปพูดคุย ตรึงกำลัง ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีการเจรจากันอยู่ ขณะกำลังตำรวจทั้งหมดกลับเข้าสู่จุดรวมพล ยกเว้นที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อเวลา 11.00-13.00 น.ได้มีเหตุกระทบกระทั่งใช้อาวุธร้ายแรงยิงใส่ตำรวจ ปรากฏตามภาพสื่อมวลชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตำรวจ บช.ภ.2 ที่ไปปฏิบัติภารกิจที่จุดดังกล่าว มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง สามารถจับกุมผู้ชุมนุมได้ 39 ราย ผู้ถูกจับกุมทั้งหมดถูกส่งไปควบคุมตัวที่ ตชด.ภ.1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดีแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกได้แก่ แกนนำได้แจ้งข้อหา นายระวี และ นายทศพล ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215-216 ฐานเป็นหัวหน้าในการกระทำผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่สั่งให้เลิก แต่ไม่เลิก และมั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุนวายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนที่ 2 ผู้ชุมนุมที่เหลือมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215-216 เป็นหัวหน้าในการกระทำผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่สั่งให้เลิก แต่ไม่เลิก และมั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทำให้เกิดความวุนวายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมได้ที่จับกุมที่กระทรวงพลังงานถูกแจ้งข้อเพิ่มอีกคือร่วมกัน 2 คนขึ้นไป บุกรุกในเวลากลางคืนตาม ป.อาญา มาตรา365 เนื่องจากทาง ปตท.ได้แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2557
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายได้สรุปการทำผิด กม.เลือกตั้ง ขัดขวางการเลือกตั้ง 160 คดี กกต.จงใจละทิ้ง 169 คดี รวม 329 คดี ออกหมายจับแล้ว 78 คน จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้ออกวิทยุสั่งการ กำชับแนวทางการปฏิบัติเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนหลังมีการชุมนุมในหลายพื้นที่ 1.ให้เร่งการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้งผู้ที่ขัดขวางการเลือกตั้ง และ กกต.ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ โดยให้ ผบช.ภ.7 ภ.8 ภ.9 และ ศชต.มอบหมายให้ รอง ผบช.1 นาย และ ผบก.ภ.จว.ในสังกัดมอบหมาย รอง ผบก.ภ.จว.1 นาย รับผิดชอบกำกับดูแลและเร่งรัดการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งในพื้นที่รับผิดชอบ และให้ พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร ผู้ช่วย ผบ.ตร.ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด 2.ให้ตำรวจนครบาล จัดพนักงานสอบสวน ไปให้บริการรับแจ้งความเดือดร้อนของประชาชน ณ สถานที่ให้บริการจัดทำหนังสือเดินทางของกระทรวงต่างประเทศ 3 แห่ง ประกอบด้วย ห้างเซ็นทรัลบางนา เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 3.กำชับการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ช่วยเหลือ ระงับ ยับยั้ง การปิดล้อม บุกรุกสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญของผู้ชุมนุม
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจกับ ตร.และครอบครัวผู้ที่เสียชีวิต บาดเจ็บ ตอนนี้ได้ให้ชุดอีโอดีเข้าพื้นที่ เร่งคลี่คลายคดี ยืนยันว่าการทำงานเพื่อขอเปิดพื้นที่ให้ข้าราชการเข้าทำงาน เปิดจราจร การจับกุมใช้ตำรวจควบคุมฝูงชน ไม่มีอาวุธ ใช้การเจรจาเป็นหลัก ยืนยันไม่มีการใช้กระสุนจริง มีการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนตามขั้นตอน ส่วนคนยิงเอ็ม 79 นั้น ไม่ยืนยันว่าเป็นใคร อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและภาพถ่ายต่างๆ อย่างไรก็ตาม ยังดำเนินการขอคืนพื้นที่ต่อ แต่อาจปรับยุทธวิธีให้เหมาะสม พยายามใชืช่องทางการเจราทุกช่องทาง เจรจาแกนนำทุกจุด
สำหรับตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ขอคืนพื้นที่ที่แยกผ่านฟ้า มีตำรวจบาดเจ็บ 10 นาย เสียชีวิต 1 นาย รักษาตัว รพ.ตำรวจ 9 นาย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิดมีบาดแผลตามร่างกาย อีก 1 รายอยู่ รพ.กลาง ได้แก่ 1.ส.ต.ต.ศราวุฒิ ชัยปัญหา สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี 2.ด.ต.สุนัย ชำนาญค้า สภ.องครักษ์ จ.นครนายก 3.จ.ส.ต.พัฒนา สุวรรณไตร สภ.โป่งน้ำร้อน 4.ด.ต.กัมปนาท พรสวัสดิ์ 5.ด.ต.วัฒนะพงษ์ พระสุรัตน์ 6.ด.ต.พรชาย รินทร์ทอง 7.ส.ต.ท.สุพล บุตรดี 8.ส.ต.ท.สุเทพ นวลจันทร์ 9.จ.ส.ต.ธีระศักดิ์ นางสีคุณ 10.ชวลิต โนนสูงเนิน
ส่วนผู้เสียชีวิต คือ ด.ต.เพียรชัย ภาระวัตร อายุ 45 ปี สภ.ห้วยโป่ง จ.ระยอง ถูกยิงที่หน้าอก อยู่ รพ.กลาง ส่วนผู้ชุมนุม 1 รายที่เสียชีวิต คือ นายสุพจน์ บุญรุ่ง อายุ 52 ปี