โฆษก สตช.แถลงสรุปเหตุระเบิดหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ราชดำริ พร้อมเผยสถานการณ์ความ่รุนแรงมีแนวโน้มบานปลายไปต่างจังหวัด ผบ.ตร.สั่งเร่งปรับแผนรับมือกับมสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น
วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.พร้อม พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษก พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษก กล่าวสรุปผลการประชุมติดตามสถานการณ์การชุมนุมและเหตุการณ์ทั่วไป แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.จะเป็นการสรุปสถานการณ์ในการเคลื่อนที่ของมวลชนต่างๆ 2.ความคืบหน้าในคดีที่สำคัญ 3.ข้อสั่งการของ ผบ.ตร.
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ความคืบหน้าคดีสำคัญ ประกอบด้วย 3 คดี โดยคดีที่ 1 ที่ยิงและมีการระเบิดเวที กปปส.ที่อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น.บริเวณตลาดยิ่งเจริญ พบกระเดื่องระเบิด M26 จำนวน 2 อัน สะเก็ดระเบิดและหัวกระสุนจำนวนหนึ่ง ซึ่งผลการสอบสวนสืบสวนเมื่อเช้า ทางตำรวจภูธร จังหวัดตราด ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนร้ายใช้รถก่อเหตุจำนวน 2 คัน โดยคันแรกเป็นรถกระบะยกสูงยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตูสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีคนร้ายนั่งอยู่ด้านหลังประมาณ 2 คน เป็นผู้ใช้ระเบิดชนิด M26 จำนวน 2 ลูก ขว้างไปใกล้เวที 1 ลูก และอีกลูกขว้างห่างจากเวทีประมาณ 50 เมตร ส่วนคันที่ 2 เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนเงิน ปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน มีคนร้ายนั่งอยู่ด้านหลังประมาณ 3-4 คน ใช้อาวุธปืนลูกซองและปืนขนาด 11 มิลลิเมตร หลังก่อเหตุมีพยานเห็นเหตุการณ์ เล่าว่าคนร้ายได้หลบหนี โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปอำเภอเมือง จังหวัดตราด ซึ่งกล้องวงจรปิดตัวแรกได้มีการจับภาพ แต่ยังไม่พบผู้ต้องสงสัย แต่จะตรวจสอบต่อไป คาดว่าอาจจะใช้เส้นทางอื่นหลบหนี ขณะนี้พนักงานสืบสวนสอบพยานไปแล้ว 13 ปาก และมีการตรวจสอบผู้บาดเจ็บจำนวน 36 ราย ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 26 ราย บาดเจ็บสาหัสจำนวน 3 ราย โดยแบ่งเป็นชาย 17 คน หญิง 15 คน เด็ก 4 คน โดย ผบ.ตร.ได้มีการสั่งการให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.เดินทางเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและควบคุมคดี
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า กรณีพบระเบิด M79 หน้าศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น.โดย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้เข้าพบนายภัทรศักดิ์ วรรณแสง เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อรายงานความคืบหน้าและตรวจสอบพยานเพิ่มเติม ส่วนอีกคดีกรณีเกิดเหตุระเบิดหน้าบิ๊กซีราชดำริ เมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) เวลา 16.40 น.เบื้องต้นตรวจสอบแล้วผู้บาดเจ็บ 21 ราย เสียชีวิต 3 ราย ต่อมาช่วงเช้าเวลา 10.00 น. ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 5, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ลงตรวจสอบพื้นที่ เบื้องต้นจากหลักฐานที่พบ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นระเบิด M79 หรือ M203 ซึ่งกำลังตรวจสอบความชัดเจน โดยจากการตรวจสอบแล้วน่าจะเป็นเครื่องยิงลูกระเบิดเป็นลักษณะวิถีโค้งมาจากทางทิศเหนือฝั่งประตูน้ำ
สำหรับด่านตั้งจุดตรวจความมั่นคงมีการจับกุมอาวุธมีด 1 เล่ม ใบกระท่อม 50 ใบ และหมายจับกรณีผู้ต้องหาคดียาเสพติด นอกจากนี้เวลาประมาณ 01.40 น.บริเวณถนนแจ้งวัฒนะขาเข้า หน้าธนาคารยูโอบี ระหว่างที่ ส.อ.นพดล วัฒนวงษ์คีรี อายุ 36 ปี สังกัดกองสรรพาวุธ ขับขี่รถมาบริเวณดังกล่าวปรากฏว่าถูกยิง ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและดำเนินคดีต่อไป ในส่วนของกรณีปะทะกันที่บริเวณแยกผ่านฟ้า ส.ต.ต.ศราวุฒิ ชัยปัญหา ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุปะทะดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้วเมื่อเวลา 12.30 น.ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดย ผบ.ตร.มีคำสั่งให้จัดงานอย่างสมเกียรติในฐานะเป็นนายตำรวจที่กล้าหาญ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่ออีกว่า ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ด.ต.สายหยุด มาเรียน ผบ.หมู่ สภ.ดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ซึ่งมาควบคุมฝูงชนจุดวัดสาครสุ่นประชาสรรค์ แล้วเกิดอาการเป็นลม ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเส้นโลหิตในสมองแตก เนื่องจากความเครียดระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โดย ผบ.ตร.ให้จัดพิธีอย่างสมเกียรติเช่นเดียวกัน
พล.ต.ต.อนุชา กล่าวว่า สถานการณ์การชุมนุมยังคงมี 5 เวทีหลัก และมีผู้ชุมนุมค้างแรมอยู่ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย, ทำเนียบรัฐบาล, แยกผ่านฟ้า ส่วนสถานที่ราชการที่ถูกปิด คือ ทำเนียบรัฐบาล, กรมพัฒนาพลังงานทดแทน, ศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ ทางคู่ขนาต่างจังหวัด ภาคเหนือ 3 จังหวัด ตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด และภาคใต้ 7 จังหวัด รวม 12 จังหวัด สำหรับการเคลื่อนตัวของมวลชนในวันนี้ มีทั้งหมด 4 กลุ่ม คือ กปปส.นำโดยพุทธะอิสระ นำมวลชนจากเวทีแจ้งวัฒนะ เคลื่อนมาชุมนุมหน้าสถานนีวอยซ์ทีวี บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตขาออก มีการปิดการจราจร ถนนวิภาวดีขาออกช่องทางคู่ขนาน 1 ช่องทาง มวลชนประมาณ 500 คน, กลุ่มผู้ชุมนุมจากสวนลุมพินี เคลื่อนตัวมาปิดล้อมกรมพัฒนาที่ดิน ถนนพหลโยธิน ขณะนี้เคลื่อนมาชุมนุมที่กรมส่งเสริมการเกษตร บริเวณถนนพหลโยธินขาออก มีการปิดการจราจร 2 ช่องทาง มวลชนประมาณ 200 คน, กลุ่มที่สาม หน้ากระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ซอยโยธี มีการปิดการจราจรถนนพระราม 6 จากองค์กรเภสัช ถึงกระทรวงอุตสาหกรรม มวลชนประมาณ 400 คน และกลุ่มที่สี่่ กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม นำโดย นายถาวร เสนเนียม มีการปิดการจราจรบริเวณซอยอารี มวลชนประมาณ 300 คน
พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร กล่าวว่า เหตุการณ์ความรุนแรงเริ่มลุกลามบานปลายไปในต่างจังหวัดหลายจังหวัด รวมทั้งมวลชนที่เห็นต่าง เริ่มมีการเคลื่อนไหวหลายจังหวัด พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทุกภาคเตรียมแผนรองรับการเผชิญหน้าของมวลชนทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนี้ให้ใช้โมเดลเดียวกับที่ กทม.โดยตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ทั้งด่านความมั่นคงและด่านป้องกันปราบปราบอาชญากรรม เพื่อคัดกรองอาวุธและคัดกรองบุคคล โดยให้ทุกหน่วยดำเนินการในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ประชาชนทั่วไปสามารถลดความรุนแรงในช่วงสถานการณ์ความรุนแรงนี้ได้ ใน 4 ประเด็น คือ 1.รับฟังข่าวสารอย่างรอบด้านด้วยความมีสติ 2.ให้เคารพกฎหมาย 3.ทุกคนต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น 4.ทุกคนในสังคมต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับบ้านเมือง โดยสามารถแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ได้ที่สถานนีตำรวจทั่วประเทศ หรือ โทร.191, sms191 หมายเลข 1599 รวมทั้งFacebook/police spokesman ตลอด 24 ชม.