ตัวแทนชาวนาภาคตะวันตก พร้อมด้วยทนายความเข้ายื่นฟ้อง “ยิ่งลักษณ์-กิตติรัตน์-นิวัฒน์ธำรง” พร้อมพรรคพวกรวม 9 คนต่อศาลแพ่งในข้อหาร่วมกันกระทำผิดละเมิดสัญญา โดยเรียกร้องค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายระวี รุ่งเรือง รักษาการประธานเครือข่ายชาวนาไทยพร้อมตัวแทนจำนวนหนึ่ง และทนายความได้มายื่นฟ้อง นายกรัฐมนตรีเเละพวกรวม 9 คน ประกอบด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายนิวัฒนธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรฯ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ , ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) กระทรวงพาณิชย์ และองค์การคลังสินค้า ต่อศาลข้อหาละเมิดผิดสัญญาในโครงการรับจำนำข้าว พร้อมเรียกค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 19,713,718 บาท
นายระวี กล่าวว่า เป็นกลุ่มชาวนาจากภาคกลางและภาคตะวันตก ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ที่ ยังไม่ได้รับเงิน จึงรวบรวมรายชื่อของชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมดประมาณ 180 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 19 ล้านบาท ทั้งนี้ได้นำเอกสารรายชื่อชาวนาชุดแรกมายื่นต่อศาลแพ่งก่อน จำนวน 50 รายชื่อ จะมีการทยอยยื่นฟ้องเพิ่งเติมอีก และในอนาคตจะร้องต่อศาลอาญาให้ดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงด้วย
นายสมนึก ท้วมศรี อายุ 45 ปี กล่าวว่า ตนเป็นชาวนา อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ที่ตอนนี้รัฐบาลเอาข้าวของชาวนาไปหมดแล้ว แต่ไม่เห็นเงินสักบาท พวกตนจึงมาทวงเงินคืน ยืนยันว่าไม่ได้อยากชุมนุม รวมทั้งไม่ได้อยากมากรุงเทพ ฯ เพราะไม่ใช่บ้านของตน อยากทำมาหากินมากกว่า ที่ผ่านรัฐบาลมองชาวนาว่าเป็นเศษผงธุลี แต่พวกตนเดือนร้อนกันมาก ขอให้เห็นใจด้วย ไม่เช่นนั้นพวกตนก็จะมาชุมนุมกันอีก และก็อาจจะทำให้รัฐมนตรีตกเก้าอี้ก็ได้
ขณะที่นายรัฐ เนติวรรณ ทนายความอาสา กล่าวว่า นอกจากใบประทวนที่ชาวนาใช้เป็นหลักฐานเเล้ว จะยังมีคำเบิกความที่ชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของนโยบายจำนำข้าวซึ่งเป็นนโยบายซึ่งไม่สามารถใช้ได้จริง เเต่ทำเพื่อเรียกคะเเนนเสียงประชานิยม รวมถึงการกระทำการประมาทเลินเล่อในโครงการนี้อีกด้วย โดยในวันที่ 17 ก.พ.นี้ คาดว่าจะมีชาวนาอีกกว่า 100 คน มายื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเพิ่มเติมด้วย
ทั้งนี้ ตัวแทนชาวนา ได้นำใบประทวน สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชน มายื่นเป็นหลักฐานประกอบคำร้องให้ศาลประกอบการพิจารณาด้วย ซึ่งศาลได้รับคำฟ้องไว้เพื่อพิจารณาคดีต่อไป