ผลการเจรจาระหว่างตัวแทนชาวนากับรัฐบาลรักษาการ เรียกร้องเงินโครงการรับจำนำข้าวล้มเหลว หลังรัฐบาลพูดแต่เรื่องเดิมซ้ำซากว่าติดขัดข้อกฎหมาย “ณัฐวุฒิ” เหวอกำลังจ้อเจอชาวนาวอล์กเอาต์ พร้อมยกระดับปิดคลังข้าวทั่วประเทศ เพราะรัฐบาลโกงชาวนา พร้อมเชิญชวนชาวนาทั่วประเทศแสดงพลัง
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี เมื่อเวลา 08.00 น. พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เดินลงมาตรวจความเรียบร้อยการรักษาความปลอดภัยบริเวณด้านหน้าและบริเวณโดยรอบสำนักงาน เพื่อรับมือกลุ่มเกษตรกรชาวนาที่จะเดินทางมาชุมนุมปิดล้อมสป.กห.เพื่อทวงถามเงินจากโครงการรับจำนำ ช่วงเวลาเดียวกัน ที่บริเวณศาลตายาย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าสำนักงาน มีกลุ่มเกษตรกรชาวนาประมาณ 20 คน มาชุมนุมสังเกตการณ์ ทั้งนี้ การรักษาความปลอดภัย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ได้เตรียมความพร้อมตั้งแต่เช้ามืด นำรถปฏิบัติการจิตวิทยา ที่มีลำโพงบนรถและลำโพงอีกชุดหนึ่งมาติดตั้งที่ด้านหน้าสำนักงาน เพื่อเจรจาทำความความเข้าใจ และเตรียมเสริมชุดจับกุมจำนวนหนึ่งอยู่รอบนอก ซึ่งจะคอยปฏิบัติการแทรกขบวนกลุ่มชาวนา หากเกิดเหตุฉุกเฉิน
ต่อมาเวลา 09.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เดินทางถึงสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ทันทีที่เดินทางมาถึง ได้เรียกประชุมรัฐมนตรี หัวหน้าหน้าส่วนราชการ เพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำนำข้าว อาทิ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์, นางเบญจา หลุยเจริญ ปฏิบัติหน้าที่ รมช.คลัง, นายวราเทพ รัตนากร ปฏิบัติหน้าที่ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายกฯ ประชุมรับฟังรายงานและประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่ม กปปส.ร่วมกับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) และ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม
จากนั้นเวลา 11.45 น.ที่บริเวณด้านข้างสำนักงาน ติดกับศูนย์แสดงสินค้านานาชาติอิมแพค เมืองทองธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าขอตรวจค้นชายวันกลางคนอายุ 35-40 ปี หลังพบมีพิรุธ สะพายกระเป๋าใส่กีตาร์ เมื่อตรวจค้นพบปืนลม จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระบอกไม้ไผ่เป่าลูกดอก จำนวน 2 กระบอก อยู่ภายในกระเป๋าใส่กีตาร์ ซึ่งชายดังกล่าวอ้างว่า นำมายิงเก็บลูกโป่งภายในงานที่จัดขึ้นภายในอิมแพค เมืองทองธานี โดยชายดังกล่าวได้ให้เบอร์โทรศัพท์เจ้าหน้าที่อิมแพคกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวชายทั้งสองคนไปสอบปากคำต่อที่ สภ.อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทั้งนี้ช่วงแรกชายทั้งสองคนพยายามบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า มาทำงาน จะจับทำไม รู้ว่าเป็นพื้นที่ประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังไงก็ต้องมีการตรวจสอบเข้มงวดอยู่แล้ว
ต่อมาเวลา 13.30 น. กลุ่มเกษตรกรชาวนา จำนวนกว่า 400-500 คน จาก จ.สระบุรี ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อุทัยธานี ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา และ จ.อ่างทองได้เดินทางจากกระทรวงยุติธรรม มาชุมนุมที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ทันทีเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ทหารตั้งแถวประชิดรั้วทันที และนำรั้วหลวดหนามปิดประตูทางเข้าออกด้านหน้าสำนักงานฯ ห้ามสื่อมวลชนเข้าออก โดยเกษตรกรชาวนาเรียกร้องทวงเงิน 1.2 แสนล้านบาท และให้รัฐบาลส่งตัวแทนเจรจา จากนั้น พ.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ รองเลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าฯ จ.นนทบุรี เป็นตัวแทนเข้าเจรจา เพื่อขอให้ผู้ชุมนุมส่งตัวแทนแต่ละจังหวัดเข้าเจรจากับตัวแทนรัฐบาล
จากนั้นเวลา 14.00 น. กลุ่มเกษตรกรชาวนาได้ส่งตัวแทนชาวนา จำนวน 30 คน โดยมีนายระวี รุ่งเรือง ประธานศูนย์ข้าวชุมชนภาคตะวันตก, นายกิติตศักดิ์ รัตนวราหะ ประธานเครือข่ายชาวนาภาคเหนือ เป็นแกนนำ ที่ชั้น 1 ห้องกองเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เจรจาตัวแทนรัฐบาล ประกอบด้วยนายนิวัฒน์ธำรง นายวราเทพ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปฏิบัติหน้าที่ รมช.พาณิชย์ และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ปฏิบัติหน้าที่ รมช.ศึกษาธิการ โดยเปิดให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลจ่ายเงินมาอย่างต่อเนื่องมาตลอดจนถึงงวดเดือน ต.ค. 56 ในวงเงินงบประมาณ 6 หมื่นกว่าล้านบาท สำหรับชาวนาที่ยืนยันยังไม่ได้ ให้มาลงชื่อ และจะไปตรวจสอบกับทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้ ส่วนเดือน พ.ย. ยืนยันว่า จ่ายไปแล้ว 63 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่ยังไม่ได้จ่ายเลยคือเดือน ธ.ค. 56 ที่มียอดการรับจำนำสูงสุด และ ม.ค. 57 ส่วนยอดเดือน ก.ย. ที่ยังค้างจ่ายอยู่ เป็นเพราะมีการจำนำเกินวงเงินงบประมาณเดิมที่ขออนุมัติไว้ 712 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในช่วงที่รัฐบาลประกาศยุบสภาพอดี ทำให้ติดขัดข้อกฏหมาย แต่ทั้งนี้ จะมีการเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 11 ก.พ. นี้ เพื่อขออนุมัติ จากนั้นจะนำเสนอ กกต. พิจารณาเพื่อขอความเห็นชอบ เนื่องจากเป็นงบกลาง และเร่งจ่ายชาวนาทันที
จากนั้น ตัวแทนชาวนาได้สอบถามกรณีที่นายนิวัฒน์ธำรง ระบุเรื่องคืนข้าวชาวนา ถ้าคืนได้อย่างนั้นขอข้าวคืนจากรัฐบาล ขณะที่นายนิวัฒน์ธำรง ชี้แจงว่า กรณีเป็นข้อเสนอตัวแทนเกษตกรบางส่วน รัฐบาลไม่เคยคิดจะคืน แต่ถ้าชาวนาขอคืนข้าวเราก็ยินดี หากจำนำข้าวแล้วเป็นหนี้เป็นเรื่องธรรมดา ขณะที่ชาวนาโต้แย้งว่า โรงสีบอกไม่มีข้าวจะคืน แล้วจะรู้ได้อย่างไรข้าวส่วนไหนเป็นข้าวที่จำนำไป
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จำนวนเงิน 712 ล้านบาท ที่ยังค้างจ่ายชาวนา 3,900 กว่าราย ยังไงแล้วที่ค้างอยู่ก็ต้องจ่าย ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุม ครม. วันที่ 11 ก.พ. เพื่อขออนุมัติ แต่เนื่องจากเป็นงบกลาง เมื่อ ครม. ก็จะทำเรื่องขอ กกต. ทันที ส่วนยอดใหญ่ค้างอยู่ 1.1 แสนล้านบาท รัฐบาลพร้อมกู้เงินตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แต่ติดปัญหาธนาคารในประเทศไม่ยอมให้กู้ เนื่องจากติดข้อกฏหมายจากการที่รัฐบาลยุบสภา ขณะที่นายวราเทพ กล่าวว่า รัฐบาลยอมรับว่าทำเรื่องกู้เงินช้าไป และธนาคารก็ไม่ยอมปล่อยกู้ให้ ทำให้รัฐบาลไม่สามารถหาเงินจ่ายให้กับชาวนาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. ระหว่างที่นายณัฐวุฒิพูด ตัวแทนชาวนาบางส่วนลุกออกจากวงเจรจา เพราะเห็นว่ารัฐบาลพูดแต่เรื่องเดิม ไม่ได้รับคำตอบว่าจะจ่ายเงินเมื่อใด และกล่าวว่ามีอะไรไปคุยกันข้างนอกที่ผู้ชุมนุมรออยู่ จากนั้นปรากฏว่าตัวแทนชาวนาทั้งหมดแสดงความไม่พอใจ และลุกออกจากห้องประชุมทั้งหมด โดยนายณัฐวัฒน์ กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่สามารถหาเงิน 1.1 แสนล้านบาท มาจ่ายกับชาวนาได้ ด้วยอ้างว่าติดข้อกฏหมาย ถ้าท่านติดข้อกฏหมายทำงานไม่ได้ก็ให้ลาออก จะได้แก้ปัญหาได้เร็ว
ขณะที่นายกิตติศักดิ์ กล่าวภายหลังเจรจาว่า ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ เพราะรัฐบาลอ้างธนาคารไม่ปล่อยกู้ และม็อบก็ทำการปิดธนาคาร เรื่องแบบนี้ไม่ต้องมาบอกชาวนา เรารู้หมดแล้ว ไม่ต้องมาโกหก เรารู้อยู่แล้วว่าต้องจบแบบนี้ เมื่อรัฐบาลหาทางออกไม่ได้ก็ควรลาออก จากนั้น นายกิตติศักดิ์ ได้ขึ้นเวทีพร้อมประกาศว่า เมื่อวันนี้ยังคุยไม่รู้เรื่อง รัฐบาลก็ไม่ต้องเตะต้องข้าว โดยตนจะประสานไปยังชาวนา และจังหวัดอื่นๆ ให้ชาวนายึดคลังข้าว เพราะรัฐบาลไม่มีเงินจ่าย ดังนั้นชาวนาก็มีสิทธิที่จะยึดข้าวคืน
ขณะที่นายระวี ปราศรัยผลการเจรจาว่า การเจรจาล้มเหลว พวกตนต้องวอลค์เอาต์ออกมา เพราะรัฐมนตรีชี้แจงว่ามีม็อบไปกดดันธนาคารห้ามปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาล จึงขอให้เราไปช่วยเจรจาให้ ขอถามว่าเป็นหน้าที่ชาวนาหรือไม่ คาดไว้อยู่แล้วผลการเจรจาจะออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนข้อเสนอที่ให้รัฐบาลเปิดประมูลขายข้าวที่อยู่ในโกดัง โดยไม่สนใจว่าจะกำไรหรือขาดทุน ซึ่งกำลังจะเปิดประมูลขายข้าวในรอบนี้ 8 แสนตัน ได้เงิน 1 หมื่นล้านบาท ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรรัฐบาลจะได้เงินครบตามจำนวนที่ติดหนี้ชาวนาอยู่ ดังนั้นหากรัฐบาลรักษาการไม่สามารถทำงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพวกเราได้ ก็ควรมีรัฐบาลที่มีอำนาจบริหารเต็มมาทำหน้าที่แทน ส่วนการยึดคลังข้าวยังไม่ถือเป็นมติ ถือเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของนายกิตติศักดิ์เท่านั้น หลังจากนี้ต้องมีการหารือกันอีกครั้งก่อน
จากนั้นเวลา 15.00 น. กลุ่มชาวนา ได้สลายการชุมนุมที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เดินทางกลับไปปักหลักชุมนุมที่กระทรวงพาณิชย์ เพื่อปักหลักพักค้างต่อไป