ผบ.ตร.สรุปเหตุปะทะแยกหลักสี่ เตรียมออกหมายจับ 7 มือปืนตามภาพจากกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะมือปืนป๊อปคอร์น ยันไม่เกี่ยวข้องกับคนมีสี แต่ยังไม่ระบุเป็นการ์ด กปปส.หรือกลุ่มต่อต้าน ส่วนคดีสังหาร “สุทิน” ยังมืดแปดด้าน อ้างฝ่ายผู้เสียหายไม่ยอมให้ความร่วมมือ
วันที่ (12 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมเร่งรัดคดีความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงการชุมนุม โดยมี พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ.4 และนายตำรวจชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมดเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง
โดย พล.ต.อ.อดุลย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า คดีความรุนแรงที่แยกหลักสี่ ถือว่ามีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยมีการสืบทราบผู้กระทำความผิดได้เพิ่มอีก 3-4 คน เบื้องต้นไม่เกี่ยวข้องกับคนมีสี ซึ่งตำรวจต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนมากขึ้น แต่เราทราบชื่อบุคคลเหล่านั้นแล้ว ที่เป็นบุคคลทั่วไป
ด้าน พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า วันนี้ทาง ผบ.ตร.ได้เป็นประธานประชุมให้มีการเร่งรัดคดีต่างๆ โดยเฉพาะคดีเหตุการปะทะที่แยกหลักสี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ พร้อมสังเกตพฤติกรรมการใช้อาวุธ โดยขณะนี้สามารถยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว 7 คน จากภาพบุคคลที่ปรากฏในคลิป 21 คน โดยมี 1 คน คือ บุคคลที่สวมหมวกไหมพรม และใช้กระสอบคลุมปืนรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่า บุคคลเหล่านี้รับราชการหรือไม่ แต่เรามีเพียงชื่อนามสกุลเท่านั้น โดยคดีนี้ทาง ผบ.ตร.ได้มีกำชับให้สืบสวนสอบสวนให้เร็วที่สุด แม้พนักงานสอบสวนจะมีข้อจำกัด โดยจะมีคณะที่ปรึกษาทางคดี ประกอบด้วย พล.ต.อ.จรัมพร พล.ต.ท.วินัย พล.ต.ท.อนุชัย ที่ได้รับมอบหมายจาก ตร.แต่งตั้งขึ้นมา เพื่อให้คำแนะนำพนักงานสอบสวน เช่น การหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้จากภาพที่ปรากฏตามคลิปวิดีโอ และพฤติกรรมดังกล่าวทางการสอบสวนจะพิจารณาตามภาพ รวมถึงมีพยานได้ยืนยันบุคคลดังกล่าวว่า ได้กระทำความผิดอย่างไรบ้างชัดเจนแล้ว หลังจากนี้จะขอศาลออกหมายจับต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า บุคคลทั้ง 7 คน ที่ปรากฏในคลิปเหตุการณ์ที่แยกหลักสี่นั้น ยังอยู่พื้นที่ชุมนุมหรือไม่ พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ยังไม่ทราบในส่วนนี้ เราทราบแค่ชื่อนามสกุลของบุคคลทั้ง 7 เท่านั้น โดยคดีนี้มีประชาชนส่งคลิปเข้ามาเป็นหลักฐานจำนวนมาก ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าบุคคลเหล่านี้เป็นกลุ่มไหนอย่างไร ส่วนจะเป็นการ์ด กปปส.หรือไม่นั้น ยังไม่มีความชัดเจน แต่จะมีการยื่นออกหมายในคดีอาญา เพราะมีหลักฐานก่อเหตุชัดเจน โดยเหตุการณ์ที่แยกหลักสี่ ได้มีการปะทะกัน 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่ม กปปส.ที่ศูนยราชการฯ แจ้งวัฒนะ 2.ฝ่ายต่อต้านการชุมนุม ที่เคลื่อนมาจากวัดหลักสี่ 3.กลุ่ม กปปส.ที่เคลื่อนมาจากแยกลาดพร้าว
เมื่อถามถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนายสุทิน ธราทิน ผู้ประสานงานกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่วัดศรีเอี่ยม เขตบางนา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า คดีนี้ทาง ผบ.ตร.ได้เร่งรัดการสอบสวนเช่นกัน โดยจะแกะรอยจากคลิปวิดีโอ ซึ่งก็มีความคืบหน้าพอสมควร โดยมีการจัดชุดสืบสวนพิเศษลงพื้นที่เข้าไปเสริม เพื่อที่จะสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ได้ แต่ยังมีอุปสรรคจากผู้เสียหาย หรือแกนนำที่ยังไม่เข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจ โดยเราได้ทำหนังสือเชิญนายระวี มาศฉมาดล แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ และเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) ไปแล้ว ที่คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะได้รับความร่วมมือเข้ามาให้ข้อมูล เพราะถ้าผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุเข้ามาให้การแล้ว จะถือเป็นประโยชน์มาก เพราะเป็นประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ จะช่วยการทำงานของตำรวจมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภาพชายที่สวมหมวกไหมพรม และใช้กระสอบคลุมปืน ชื่อนายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก และอีกคนชายสวมเสื้อขาวมีผ้าปิดจมูกและมีปลอกแขนสีเขียวอ่อนที่เขียนว่าการ์ด กปปส.ใช้ปืนสั้นนอนยิงตรงหน้าป้อมตำรวจบริเวณแยกหลักสี่ ชื่อนายสุรเชษฐ ตรีนพรัตน์ อายุ 49 ชาว กทม.และนายดนัย ไม่ทราบนามสกุล เป็นการ์ดอาชีวะ แต่ศาลได้ขอพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งให้ไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล