โฆษก สตช.เผยเหตุรุนแรงช่วงการชุมนุมลดลง พร้อมเผยตำรวจบุกตรวจค้นบ้าน “สนธิญาณ” เจอวิทยุสื่อสารในห้องคนดูแลบ้าน พร้อมค้นรถเจอติดวิทยุสื่อสาร และมีเสื้อเกราะ สั่งดำเนินคดีทันที
วันนี้ (11 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก สตช.กล่าวว่า ในระยะเวลาที่ผ่านมา การก่อเหตุด้วยความรุนแรงต่างๆ มีปริมาณลดลง ส่วนผลการจับกุมของจุดตรวจในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ยังมีผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับกรณีเกิดเหตุระเบิดปิงปองวานนี้ ขณะเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดไปตรวจพบและเกิดเหตุระเบิด ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ทาง ตร.โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้กำชับให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 เร่งดำเนินคดีโดยเร็ว ส่วนกรณีของเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลฝ่ายสืบสวนของตำรวจภูธร จ.นนทบุรี ระหว่างที่สืบสวนหาข่าวในบริเวณพื้นที่ได้ถูกทำร้าย ผบ.ตร.ได้สั่งการให้แพทย์โรงพยาบาลตำรวจดูแลอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ต้องมีการปรับแนวทางการปฏิบัติสืบสวนหาข่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่ง พร้อมกำชับผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดประเมินความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจส่งฝ่ายสืบสวนเข้าไปในพื้นที่ โดยเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นหลัก
ด้าน พล.ต.ต.อนุชา กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมยังคงมี 5 เวทีหลัก โดยมีเวทีคู่ขนาน กปปส.ต่างจังหวัดทั้งสิ้น 12 จังหวัด แบ่งเป็นภาคเหนือ 3 จังหวัด, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด และภาคใต้ 5 จังหวัด ด้านสถานที่ราชการและสาธารณูปโภคที่ถูกปิดมีทำเนียบรัฐบาล, กระทรวงพลังงาน, กระทรวงมหาดไทย, ศูนย์ราชการ, กรมการขนส่งทางบก และสะพานไทย-ญี่ปุ่น โดยมีการ์ดของผู้ชุมนุมเฝ้าอยู่ ซึ่ง ผบ.ตร.มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มีผู้ใช้อาวุธ M79 ยิงเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม โดยเกิดเหตุที่แจ้งวัฒนะ 2 ครั้ง และบริเวณลาดพร้าว 1 ครั้ง จึงได้มีการสั่งการให้รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่รับผิดชอบ รวมทั้งผู้บังคับการนครบาลพื้นที่ที่รับผิดชอบและผู้บัญชาการเหตุการณ์พื้นที่ชุมนุมทุกแห่ง ประสานงานกับแกนนำ หรือหัวหน้าการ์ด เพื่อกำหนดมาตราการการตรวจค้นอาวุธ ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด ไม่ให้มีการนำเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม รวมทั้งกำหนดช่องทางการประสานงานเมื่อเกิดเหตุและการปฏิบัติหลังเกิดเหตุ อีกทั้งให้มีการปรับแผนการจัดสายตรวจ รวมทั้งการตั้งจุดตรวจสกัดรอบพื้นที่ชุมนุม และให้ตรวจสอบจุดสูงข่มรอบพื้นที่ชุมนุม และเพิ่มความเข้มในการตรวจตราตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะในพื้นที่รัศมี 400 เมตร โดยให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบและให้คำแนะนำในการปฏิบัติกับผู้ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ
พล.ต.ต.อนุชา กล่าวว่าต่อว่า การตรวจค้นบ้านพักของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ หนึ่งในแกนนำ กปปส.ภายในหมู่บ้านพุทธธานี ย่านพุทธมณฑลสาย 4 เป็นการตรวจค้นตามหมายศาล พบวิทยุสื่อสาร ในห้องนอนของนายวรพจน์ ไชยเดช ซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้านของนายสนธิญาณ ซึ่งได้แจ้งข้อหามีและใช้วิทยุสื่อสารโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังค้นพบเสื้อเกราะ 2 ตัว และวิทยุสื่อสาร ในรถตู้ของนายประมวล ประจันทร์นวล คนขับรถของนายสนธิญาณ จึงแจ้งข้อหามียุทธภัณฑ์ของทหารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหามีและใช้วิทยุสื่อสารโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ขณะเดียวกัน ผบ.ตร.ได้แสดงความชื่นชมตำรวจชุดจับกุม ที่ดำเนินการด้วยความละมุนละม่อม พร้อมสั่งการให้เร่งดำเนินการกับผู้ที่ถูกออกหมายจับรายอื่นๆ ต่อไป