xs
xsm
sm
md
lg

ตร.อ้างปีนบ้าน “สนธิญาณ” มีหมายค้น แจ้งข้อหามียุทธภัณฑ์ทหารโดยไม่ได้รับอนุญาต (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาพจากกล้องวงจรปิด
ตร.ชี้บุกเข้าตรวจบ้าน “สนธิญาณ” มีหมายถูกต้อง พร้อมแจ้งข้อหามียุทธภัณฑ์ของทหารและวิทยุสื่อสารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ยันจะไม่ฝ่าวงล้อมการ์ดและผู้ชุมนุมบุกจับแกนนำ กปปส.กลางเวที เกรงจะเกิดการกระทบกระทั่ง



วันนี้ (11 ก.พ.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงการจับตัวแกนนำตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ว่า ขณะนี้แกนนำส่วนใหญ่ที่ถูกออกหมายจับยังอยู่บนเวทีพื้นที่การชุมนุม และโรงแรมใกล้เวทีที่มีการ์ดคอยติดตาม แต่ก็ยังคงปรากฏกายให้เห็น ซึ่งหากจะเร่งจับกุมในพื้นที่ชุมนุม ที่มีการ์ดคอยติดตามการจับกุมก็คงทำใด้ยาก อีกทั้งการกระทำความผิดตาม พ.ร.ก.ก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง เป็นเรื่องทางการเมือง หากฝืนเข้าไปจับกุมก็เกิดการกระทบกระทั่ง หรือประเมินว่าจะเกิดความรุนแรงตำรวจก็จะไม่ทำ

พล.ต.ท.วินัยกล่าวอีกว่า หลังจากแกนนำถูกออกหมายจับก็ได้จัดชุดติดตามความเคลื่อนไหวแกนนำทั้งหมดแล้ว โดยได้ให้นโยบายชุดทำงานไม่ให้ใช้ความรุนแรงในการจับกุมตัว ไม่ใช้อาวุธ ให้จับแบบละมุนละม่อม ไม่สร้างเงื่อนไขให้สถานการณ์บานปลาย

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.กล่าวว่า ในระยะเวลาที่ผ่านมาการก่อเหตุด้วยความรุนแรงต่างๆ มีปริมาณลดลง ส่วนผลการจับกุมของจุดตรวจในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลยังมีผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับกรณีเกิดเหตุระเบิดปิงปองวานนี้ ขณะเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดไปตรวจพบและเกิดเหตุระเบิดทำให้ได้รับบาดเจ็บ ทาง ตร.โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิง ผบ.ตร.ได้กำชับให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 เร่งดำเนินคดีโดยเร็ว ส่วนกรณีของเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลฝ่ายสืบสวนของตำรวจภูธร จ.นนทบุรี ระหว่างที่สืบสวนหาข่าวในบริเวณพื้นที่ได้ถูกทำร้าย ผบ.ตร.ได้สั่งการให้แพทย์โรงพยาบาลตำรวจดูแลอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันต้องมีการปรับแนวทางการปฏิบัติสืบสวนหาข่าวเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่ง พร้อมกำชับผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดประเมินความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจส่งฝ่ายสืบสวนเข้าไปในพื้นที่ โดยเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นหลัก

ด้าน พล.ต.ต.อนุชากล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมยังคงมี 5 เวทีหลัก โดยมีเวทีคู่ขนาน กปปส. ต่างจังหวัดทั้งสิ้น 12 จังหวัด แบ่งเป็นภาคเหนือ 3 จังหวัด, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด และภาคใต้ 5 จังหวัด ด้านสถานที่ราชการและสาธาณูปโภคที่ถูกปิดมีทำเนียบรัฐบาล, กระทรวงพลังงาน, กระทรวงมหาดไทย, ศูนย์ราชการ, กรมการขนส่งทางบก และสะพานไทย-ญี่ปุ่น โดยมีการ์ดของผู้ชุมนุมเฝ้าอยู่ ซึ่ง ผบ.ตร.มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มีผู้ใช้อาวุธ M79 ยิงเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม โดยเกิดเหตุที่แจ้งวัฒนะ 2 ครั้ง และบริเวณลาดพร้าว 1 ครั้ง จึงได้มีการสั่งการให้รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่รับผิดชอบ รวมทั้งผู้บังคับการนครบาลพื้นที่ที่รับผิดชอบและผู้บัญชาการเหตุการณ์พื้นที่ชุมนุมทุกแห่ง ประสานงานกับแกนนำหรือหัวหน้าการ์ด เพื่อกำหนดมาตราการการตรวจค้นอาวุธ ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด ไม่ให้มีการนำเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม รวมทั้งกำหนดช่องทางการประสานงานเมื่อเกิดเหตุและการปฏิบัติหลังเกิดเหตุ อีกทั้งให้มีการปรับแผน การจัดสายตรวจรวมทั้งการตั้งจุดตรวจสกัดรอบพื้นที่ชุมนุม และให้ตรวจสอบจุดสูงข่มรอบพื้นที่ชุมนุม และเพิ่มความเข้มในการตรวจตราตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะในพื้นที่รัศมี 400 เมตร โดยให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบและให้คำแนะนำในการปฏิบัติกับผู้ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ

พล.ต.ต.อนุชากล่าวต่อว่า การตรวจค้นบ้านพักของนายสนธิญาณ ภายในหมู่บ้านพุทธธานี ย่านพุทธมณฑลสาย 4 เป็นการตรวจค้นตามหมายศาล พบวิทยุสื่อสารในห้องนอนของนายวรพจน์ ไชยเดช ซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้านของนายสนธิญาณ ซึ่งได้แจ้งข้อหามีและใช้วิทยุสื่อสารโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังค้นพบเสื้อเกราะ 2 ตัว และวิทยุสื่อสารในรถตู้ของนายประมวล ประจันทร์นวล คนขับรถของนายสนธิญาณ จึงแจ้งข้อหามียุทธภัณฑ์ของทหารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหามีและใช้วิทยุสื่อสารโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ขณะเดียวกัน ผบ.ตร.ได้แสดงความชื่นชมตำรวจชุดจับกุม ที่ดำเนินการด้วยความละมุนละม่อม พร้อมสั่งการให้เร่งดำเนินการกับผู้ที่ถูกออกหมายจับรายอื่นๆ ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น