พบโครงกระดูกปริศนาย่านรามอินทรา

พบโครงกระดูกปริศนาในป่ารกร้างย่านรามอินทรา ใกล้ศพพบจีวรกระจายอยู่ คาดเสียชีวิตมากว่า 2 สัปดาห์

เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (7 ก.พ.) ร.ต.ท.ชนะชัย พันธุ์วิไล พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ได้รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์ที่บริเวณภายในป่ารกร้าง ข้างหมู่บ้านบางกอกบลูเลอวาร์ด ถ.รัชดา-รามอินทรา แขวงและเขตคันนายาว กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัึญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ

ที่เกิดเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์อยู่ภายในป่ารกร้าง ห่างจากถนนประมาณ 100 เมตร สำหรับโครงกระดูกที่พบเป็นโครงกระดูกมนุษย์ส่วนลำตัว อวัยวะบางส่วนยังมีชิ้นเนื้อติดอยู่ ใกล้กันพบเศษกะโหลกกระจายอยู่ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ห่างจากจุดที่พบโครงกระดูกพบจีวรพระสีเหลือง 1 ผืน และห่างไปอีก 20 เมตร พบจีวรพระสีเหลืองอีก 1 ผืน กองอยู่กับพื้น ภายในบริเวณดังกล่าวเป็นป่ารก ไม่มีบ้านพักอาศัยแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์

ร.ต.ท.ชนะชัย กล่าวว่า จากการสอบสวน นายพาสา ห่วงวิเชียร อายุ 66 ปี ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงกล่าวว่า ตนเลี้ยงวัวในป่านี้มาประมาณ 11 ปี พื้นที่ดังกล่าวไม่แน่ใจว่าเป็นของใคร โดยในวันนี้ตนได้ออกไปเลี้ยงวัวตามปกติ จากนั้นได้กลิ่นเหม็นจึงเดินตามกลิ่นไปจนกระทั่งเจอโครงกระดูกดังกล่าว จึงได้ไปปรึกษากับเพื่อนก่อนที่จะไปแจ้งความให้ตำรวจมาตรวจสอบ ที่ผ่านมา ก็เคยพบว่ามีพระสงฆ์มาธุดงค์ปักกลดที่บริเวณดังกล่าว 2-3 รูป และเคยเห็นรถยนต์เก่าๆ ขับรถมาจอดที่ถนน จากนั้นคนขับได้เดินลงมาหาพระสงฆ์ พร้อมกันนี้ ยังเคยได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันแต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องกับการพบศพครั้งนี้หรือไม่

ร.ต.ท.ชนะชัย กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายเล็ก พงษ์ศิริ อายุ 53 ปี ทราบว่า ในละแวกนี้มีเพราะเขมรเข้ามาอาศัยเป็นประจำ ล่าสุด มีพระเขมร ประมาณ 4 รูป เข้ามาอาศัยในป่าแห่งนี้ และเคยได้มาขอใช้ห้องน้ำที่บ้านของนายเล็ก ทำธุระ รวมทั้งชาร์จโทรศัพท์มือถือ กระทั่งเมื่อช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ ไม่ได้เห็นพระกลุ่มนี้อีกเลย

ร.ต.ท.ชนะชัย กล่าวอีกว่า คาดว่าศพดังกล่าวตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องสอบสวนพยานเพิ่มเติมให้ละเอียดอีกครั้ง สำหรับจีวรที่พบในที่เกิดเหตุ ยังไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องกับพระที่เคยมาปักกลดในบริเวณดังกล่าวหรือไม่

เบี้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร และเพศใด จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบรอยสักยันต์ เป็นอักขระในส่วนที่เป็นโครงกระดูกแขน ซึ่งยังต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ อีกครั้ง