ผกก.เชื่อนายดาบยิงตัวตาย หนีโรคเครียด

ผู้บังคับบัญชานายดาบโคกคราม ยิงตัวตาย เชื่อหนีความเครียดที่อาจจะต้องถูกยึดทรัพย์ หลังเป็นพยานในคดียักยอกทรัพย์ เสียดายประวัติดี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องชู้สาว อีกทั้งพึ่งได้รับรางวัลตำรวจดีเด่น ของฝ่ายสีบสวนของ สน.เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

วันนี้ (23 ม.ค. ) พ.ต.ท.เทิดศักดิ์ ทักษิมา พงส.สน.คันนายาว กล่าวถึงกรณี ด.ต.ชาตรี ชูทอง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.โคกคราม อายุ 45 ปี ยิงตัวตาย เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการสอบพยาน 2 ปาก คือเพื่อนร่วมงาน และภรรยาของ ด.ต.ชาตรี ให้การตรงกันว่าพักหลังๆ มานี้ ด.ต.ชาตรี มีความเครียดเกี่ยวกับคดีความที่ต้องไปเป็นพยานในวันนี้ (23 ม.ค.) อาจจะเป็นเหตุที่ ด.ต.ชาตรี เครียดจนตัดสินใจฆ่าตัวตาย ซึ่งตอนนี้ศพของ ด.ต.ชาตรี คงอยู่ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ และในช่วงบ่ายของวันนี้ (23 ม.ค.) ทางญาติจะรับไปบําเพ็ญกุศลต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.โคกคราม ผู้บังคับบัญชา ด.ต.ชาตรี กล่าวว่าโดยปกติแล้ว ด.ต.ชาตรี นั้นเป็นคนมีอุปนิสัยเรียบร้อย นิ่งๆ ไม่ค่อยพูด แต่เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี รักครอบครัว และไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องชู้สาว ส่วนเรื่องหนี้สินนั้น ด.ต.ชาตรี มีเพียงเงินกู้ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของตำรวจที่จะสามารถกู้ได้ ล่าสุด ด.ต.ชาตรี พึ่งได้รับรางวัลตำรวจดีเด่นของฝ่ายสีบสวน สน.โคกคราม ไปเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนคาดว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่ ด.ต.ชาตรี ซึ่งจะต้องไปเป็นพยานในชั้นศาลในคดีเกี่ยวกับยักยอกทรัพย์ ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายอาจจะมีการโทร.มาเพื่อให้ช่วยชี้ความให้ฝ่ายตน จึงอาจทำให้ ด.ต.ชาตรี เกิดความเครียดและก่อเหตุสลดในครั้งนี้ โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ ด.ต.ชาตรี ได้มีการพูดคุยกับภรรยาและลูก ว่าการเป็นพยานครั้งนี้ อาจทำให้ ด.ต.ชาตรี ถึงกับโดนยึดทรัพย์และอาจติดคุก และมีการโอนทรัพย์สิน ที่ดิน รวมไปถึงสวนยางทั้งหมด ให้กับภรรยาและลูก ซึ่งเพื่อนร่วมงานของ ด.ต.ชาตรี เมื่อรู้ข่าวเกี่ยวกับเหตุสลดครั้งนี้ เพื่อนทุกคนตกใจมาก และไม่คิดว่า ด.ต.ชาตรี จะตัดสินใจฆ่าตัวตาย เป็นเรื่องที่บรรดาเพื่อนร่วมงานรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก