รอง ผบช.น.พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอีโอดี ตรวจสอบความเสียหายพื้นที่จุดปะทะแยกหลักสี่อีกครั้ง หลังพบร่องรอยกระสุน
วันนี้ (2 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี ได้เดินทางไปตรวจสอบพยานหลักฐาน ที่บริเวณแยกหลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. หลักจากที่เมื่อช่วงเย็นวานนี้เกิดเหตุปะทะกัน เนื่องจากกลุ่มของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงชื่อดัง จ.ปทุมธานี ได้ปลุกระดมมวลชน พร้อมทั้งไม้หน้าสามเคลื่อนมาประชิดที่ ถ.แจ้งวัฒนะ ใกล้สำนักงานเขตหลักสี่
โดยจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุตั้งแต่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบร่องรอยกระสุนจำนวนมาก แต่ไม่สามารถระบุขนาดและชนิดของปืนที่ใช้ยิงได้
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนทั้งสิ้น 6 คน โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัสถูกกระสุนปืนเข้าที่ลำคอ 1 คน คือนายอาแกว แซ่ลิ้ว อายุ 72 ปี แพทย์ได้รักษาโดยการผ่าตัด
พล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจหาหลักฐานอีกครั้ง ทำให้ได้หลักฐานเพิ่มอีก 2 รายการ คือ หัวกระสุน โดยเก็บได้ที่บริเวณป้อมจราจร และรถสายตวรจ ทะเบียน 45432 ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งรถคันดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้บริเวณข้างป้อมจราจร เมื่อตรวจสอบวิถีกระสุนแล้วคาดว่าน่าจะถูกยิงมาจากแนวแบริเออร์ฝั่งตรงข้ามป้อมจราจร เป็นหลักฐานเพิ่มเติมจากที่เมื่อวานเก็บปลอกกระสุน 25 รายการ มีทั้งขนาด 11 มม. ขนาดคาร์บิ้น 9 มม. หมอนรองกระสุนลูกซอง หัวกระสุน .223, .45, .38 ซึ่งทั้งหมดนี้ขณะนี้ในชั้นต้นพบว่ามีการใช้อาวุธปืนประมาณ 5 ชนิด คือ ขนาด 11 มม., ขนาด.38, ปืนคาร์บิน ขนาด .223 และขนาด 9 มม. โดย .223 เป็นกระสุนที่ใช้กระสุนเอ็ม 16 และจากเสียงระเบิดที่ดังขึ้นนั้น เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบสะเก็ดระเบิด จึงคาดว่าน่าจะเป็นเสียงของประทัดยักษ์
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า ต่อจากนี้ต้องตวรจดูวิถีกระสุนว่ามาจากทางใดบ้าง และทางเจ้าหน้าที่จะนำหลักฐานทั้งหมดที่ได้มา ประกอบในสำนวนคดี พร้อมทั้งได้เรียกผู้บาดเจ็บทั้ง 5 คนมาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อออกหมายจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป