ดีเอสไอนำ “ตำรวจ-จนท.หน่วยเลือกตั้ง” ขึ้นเบิกความ ไต่สวนขอออกหมายจับ 19 แกนนำ กปปส.กระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ด้านทนายแกนนำ กปปส.ยื่นคัดค้านหมายจับ เตรียมพยานไว้หากศาลเรียกเบิกความไต่สวน ล่าสุดศาลนัดฟังคำสั่งอนุมัติหมายจับหรือไม่ 5 ก.พ.นี้
วันนี้ (31 ม.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 803 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอออกหมายจับ กรณีที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พร้อมคณะ ที่ได้ยื่นคำร้องเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับแกนนำ กปปส.จำนวน 19 ราย ประกอบด้วย 1. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ 2. นายสาธิต วงศ์หนองเตย 3. นายชุมพล จุลใส 4. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 5. นายอิสสระ สมชัย 6. นายวิทยา แก้วภราดัย 7. นายถาวร เสนเนียม 8. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 9. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 10. น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก 11. นายนิติธร ล้ำเหลือ 12. นายอุทัย ยอดมณี 13. ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ 14. พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ 15. นายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี หรือนายอมร อมรรัตนานนท์ 16. นายกิตติชัย ใสสะอาด 17. นายสำราญ รอดเพชร 18. นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม และ 19. นายพานสุวรรณ ณ แก้ว ในข้อหากระทำผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 11 (1) และมาตรา 12
พ.ต.ต.ยุทธนาเปิดเผยว่า ดีเอสไอเตรียมพยานบุคคลซึ่งเป็นเตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าต่างๆ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา รวม 18 ปาก มาเบิกความประกอบกับพยานเอกสารหลักฐานจำนวนมาก เบื้องต้นคาดว่าวันนี้ศาลอาจจะยังไม่มีคำสั่ง เนื่องจากต้องไต่สวนพยานให้เสร็จสิ้นก่อน คาดว่าศาลจะนัดฟังคำสั่งอีกครั้งในวันต่อไป
โดยวันนี้ พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบช.น.ขึ้นเบิกความต่อศาลเป็นปากแรก ตามด้วยพ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.ฝอ.8 บก.อก. บช.น. และรอง ผกก.สส.ของสถานีตำรวจพื้นที่ต่างๆ ที่มีปัญหาถูกกลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า อาทิ พ.ต.ท.จารุภัทร ทองโกมล รอง ผกก.สส.สน.ดุสิต และพ.ต.ท.อดิศักดิ์ บุญโทแสง รอง ผกก.สส.สน.ธรรมศาลา ฯลฯ โดยเบิกความเพื่อชี้ให้ศาลเห็นถึงพฤติกรรมของแกนนำ กปปส.ทั้ง 19 รายว่ามีพฤติกรรมขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้าอย่างไรบ้าง และกระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างไรบ้าง โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการไต่สวนของศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขอหมายจับแกนนำ กปปส. ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในครั้งนี้เป็นครั้ง 2 ภายหลังจากเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ยกคำร้อง ขออนุมัติหมายจับนายสุเทพ พร้อมพวกรวม 16 คน เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
ด้าน พล.ต.ต.ขจรศักดิ์เปิดเผยว่า ในวันนี้มีพยานเป็นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยประจำหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าตามเขตต่างๆ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อชี้ให้ศาลเห็นถึงการกระทำของกลุ่ม กปปส.ว่ามีการผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อย่างไร ส่วนกรณีที่ศาลได้ออกหมายจับนายสุเทพ พร้อมพวกในข้อหากบฏก่อนหน้านี้ มีความแตกต่างกับการขอหมายจับในความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพราะเป็นกฎหมายพิเศษที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ 7 วัน โดยที่ทนายความไม่สามารถยื่นคำร้องขอประกันตัวได้ และหากสถานการณ์ยังไม่สงบก็สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอขยายระยะเวลาควบคุมตัวเพิ่มได้อีกไม่เกิน 30 วัน ส่วนสถานที่ในการควบคุมตัวผู้ต้องหาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้น จะควบคุมผู้ต้องหาตามสถานที่กำหนดไว้ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช่น กองบัญชาการตำรวจตะเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี โดยในช่วงเช้านี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นเบิกความแล้วทั้งหมด 10 ปาก ส่วนช่วงบ่ายจะมีพยานขึ้นเบิกความอีก 9 ปาก ส่วนศาลจะมีคำสั่งในวันนี้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
ขณะเดียวกัน นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ กลุ่ม กปปส. เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อคัดค้านการขอออกหมายจับของพนักงานสอบสวนดีเอสไอ โดยเตรียมพยานบุคคลสำรองไว้แล้ว หากศาลเรียกให้ไต่สวน ก็พร้อมจะนำพยานขึ้นเบิกความเพื่อไต่สวนทันที
ทั้งนี้ภายหลังดีเอสไอนำ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด 18 รายเบิกความเป็นพยานเสร็จสิ้นแล้ว ศาลจึงนัดฟังคำสั่งจะอนุมัติหมายจับหรือไม่ ในวันที่ 5 ก.พ.นี้ เวลา 13.30 น