2 สาวถูกบีบนำดอกไม้ธูปเทียนขอขมา พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.4 หลังยกเท้า-ชูนิ้ว-แสดงสีหน้าล้อเลียนหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วถูกคนร้ายยิงปืนใส่บ้าน ยิงรถยนต์เสียหาย และนำเลือดเทใส่หน้าบ้าน
วันนี้ (25 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) น.ส.พรพิมล เพียรสูงเนิน อายุ 34 ปี ชาว จ.นครราชสีมา และ น.ส.ภรวลัญช์ โคนอก อายุ 27 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร นำแจกันดอกไม้ พร้อมจุดธูปเทียนกราบขอขมา พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 หลังเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.พรพิมล และ น.ส.ภรวลัญช์ ได้เข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่ม กปปส.และยกเท้า ชี้นิ้วกลาง พร้อมแสดงสีหน้าล้อเลียนหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีภาพถูกเผยแพร่ทางโชเชียลมีเดีย และถูกโจมตีอย่างหนักโดยเฉพาะจากฝ่ายคนเสื้อแดง
น.ส.พรพิมล กล่าวว่าที่กระทำลงไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ หรือดูถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังถูกกระแสโจมตี และถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านถึง 2 ครั้ง และถูกนำเลือดไปสาดใส่หน้าบ้านด้วย ส่วนตัวอยากเข้ามาขอขมา ตั้งแต่วันแรก พร้อมขอให้สังคมให้อภัยกับการกระทำดังกล่าว
ด้าน น.ส.ภรวลัญช์ กล่าวด้วยน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตนเองทำลงไป และขอให้สังคมให้อภัย เพราะกระทำลงไป เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนรถยนต์ที่ถูกอาวุธยิงใส่ ขณะจอดไว้ที่บ้านพัก จ.สมุทรสาคร ไม่ติดใจเอาความ เพราะเป็นผลจากการกระทำของตัวเอง
ทั้งนี้ ทั้ง 2 คน ยังได้เดินไปกราบและขอขมากับป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย และยืนยันว่าต่อไปจะมีสติ และไม่แสดงพฤติกรรมดังกล่าวอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการขอขมาครั้งนี้ ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนและตำรวจชุดควบคุมฝูงชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ ภายหลังที่ น.ส.พรพิมล และ น.ส.ภรวลัญช์ นำแจดอกไม้มาวางบนโต๊ะด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 ได้มีลมพัดแรง จนแจกันดอกไม้ล้มลง สร้างความฮือฮาให้กับสื่อมวลชน และตำรวจที่ร่วมสังเกตการณ์
มีรายงานว่า หลังจากที่หญิงสาวทั้งสองคนได้แสดงท่าล้อเลียนหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีภาพเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบชื่อที่อยู่ ทะเบียนรถ จนได้ข้อมูล ก่อนที่ทั้งสองจะถูกคนร้ายคุกคามดังกล่าว