บช.น.ขู่เอาผิดแกนนำปิดล้อม สน.ดินแดง

บช.น.แถลงจะดำเนินคดีกับแกนนำที่นำกลุ่มมวลชนไปปิดล้อม สน.ดินแดง เมื่อวานนี้ เตรียมขอหมายจับมือปาประทัดยักษ์แล้ว ชี้หลังประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง มีคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบ 103 คดี ส่วนคดีกบฏให้ดีเอสไอรับไปดำเนินการต่อ

วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนไปปิดสถานที่ต่างๆ ทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหายโดยเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ได้เคลื่อนขบวนไปปิดล้อมบริเวณสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง และหน้า สน.ดินแดง และกลุ่มผู้ชุมนุม คปท.ได้เคลื่อนขบวนไปปิดล้อมที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทาง บช.น.พยายามที่จะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง ซึ่งเหตุการณ์ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง ได้ดำเนินคดีกับแกนนำและผู้ชุมนุมที่ปิดล้อม สน.ดินแดง ดังนี้ 1.นายชุมพล จุลใส 2.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณฑ์ 3.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ 4.นายสกลธี ภัททิยกุล ในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายหรือแผ่นดินรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือประทุษร้าย เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 โดยพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 1647/2556 และจะสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่มีผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์จุดประทัดยักษ์และขว้างลงมาจากอาคารจอดรถชั้น 3 ของโรงแรมปริ๊นสตั้น ซึ่งอยู่ด้านหลัง สน.ดินแดง ทำให้กระจกห้องสอบสวนของ สน.ดินแดง แตก 2 บานนั้น จากการตรวจสอบพบว่ากล้องวงจรปิดสามารถจับภาพผู้ก่อเหตุไว้ได้ ซึ่งตำรวจรู้แล้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งทาง สน.ดินแดง ได้ให้ผู้สมัครที่ไม่สามารถเข้าไปสมัครเลือกตั้งได้ ไปลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.ดินแดง และรอให้ทาง กกต.และดีเอสไอมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อไป ทั้งนี้การชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 โดยต้องชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่สร้างความเดือดร้อน จึงขอความกรุณาอยู่ในความสงบเรียบร้อย เนื่องจากการกระทำที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนนั้น จะเป็นความผิดตามกฎหมายและส่งผลกระทบต่อการจราจร ซึ่งที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนเดือดร้อนมาก ที่ สน.ดินแดง ที่ตอนแรกคล้ายเสียงปืนนั้น ตรวจสอบพบว่าเป็นประทัดยักษ์ และได้เปิดวิดีโอวงจรปิดให้ผู้ชุมนุมได้รับทราบแล้ว

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่าในช่วงที่ผ่านมา หลังจากมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง พ.ศ.2550 ได้มีคดีเกิดขึ้นในกองบัญชาการตำรวจนครบาล ทั้งสิ้น 103 คดี และคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินคดี และได้มีการออกหมายจับไว้เรียบร้อย แล้ว 2 คดี คือ 1.คดีกบฏ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง 2.คดีมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปและบุกรุก กระทรวงการต่างประเทศ นายนิติธร ล้ำเหลือ, นายอุทัย ยอดมณี, นายพิชิต ชัยมงคล และนายรัชต์ชยุตม์ ศิรโยธินภักดี สน.พญาไท ซึ่งทุกคดีกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะดำเนินการตามกฎหมายทุกคดีโดยเคร่งครัด สำหรับคดีกบฏทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับเป็นคดีพิเศษ ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้โอนคดีดังกล่าวไปให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จำนวน 17 คดี

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปตามจุดต่างๆ การปิดถนนตั้งเวทีย่อย ซึ่งส่งผลต่อสภาพการจราจรเป็นวงกว้าง พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ทางตำรวจได้มีการประชุมวางแผนดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ต้องมีการปรับแผนไปตามสถานการณ์ในแต่ละวันที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนตัว โดยจะมีการประสานกับแกนนำให้เดินขบวนในลักษณะกีดขวางการจราจรให้น้อยที่สุด หากไม่เป็นผลทางตำรวจจราจรในพื้นที่ รวมทั้งกำลังสนับสนุนจาก บก.จร.จะจัดชุดเคลื่อนที่เร็วในการเข้าอำนวยการจราจรในการควบคุมสัญญาณไฟจราจรตามทางร่วมทางแยก รวมทั้ง ปชส.แนะเส้นทางเลี่ยงการชุมนุม

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวอีกว่า การเฝ้าระวังดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้มีการเตรียมพร้อม ทั้งในส่วนการส่งประชาชนเดินทางออกต่างจังหวัด โดยจะมีการบินตรวจไปตามเส้นทางตามเส้นพหลโยธิน เข้าสู่ประตูโคราช เพื่อเร่งระบายรถออกจากกรุงเทพฯ อีกทั้งดูแลจัดการจราจรไม่เกิดปัญหารถติดสะสม ตามสถานีขนส่งหมอชิต สายใต้ นอกจากนี้ ยังเตรียมความพร้อมในการจัดงานเคานต์ดาวน์ทั้ง 12 จุดทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะจุดหลักๆ 3 จุด ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ศูนย์การค้าเอเชียทีค ถ.เจริญกรุง ห้าง CDC ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม พร้อมทั้งการอำนวยความสะดวกในช่วงประชาชนเดินทางกลับด้วย