ศอ.รส.ยอมรับเลขาธิการ กปปส.ติดต่อขอเจรจาจริง แต่จากการหารือ ผบ.เหล่าทัพยังไม่สมควรพบผู้ต้องหาคดีกบฏ แต่เร่งรัดให้รีบจับกุมตัวมาดำเนินคดี โยนบาปกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามยั่วยุ ตัดไฟทำเนียบฯ ตำรวจถูกทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียวจนได้รับบาดเจ็บ
วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. กล่าวว่า ในที่ประชุม ศอ.รส.วันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่ม กปปส. ได้มีการโทรศัพท์มาพูดคุยเพื่อขอเข้าพบจริง แต่จากการหารือร่วมกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ เห็นพ้องกันว่ายังไม่สมควรพบกับนายสุเทพ โดยเฉพาะ ผบ.ตร.ที่มีฐานะเป็นเจ้าพนักงาน ขณะที่นายสุเทพตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกบฏ พร้อมกันนี้ได้มีคำสั่งไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ตรวจสอบคลิปวิดีโอในลักษณะหมิ่นสถาบัน โดยให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำผิดดังกล่าวโดยด่วนที่สุด ขณะเดียวกัน ให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยี หรือ ปอท. ตรวจสอบที่มาของคลิปวิดีโอดังกล่าวด้วย
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ในส่วนกรณีกลุ่มการ์ดผู้ชุมนุมรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.สุนทร มีหนองใหญ่ ผบ.หมู่ กก.สส.บช.น. บริเวณถนนราชดำเนินนอก เมื่อคืนวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ทราบตัวผู้กระทำผิดแล้วและจะเร่งรวบรวมหลักฐานออกหมายจับต่อไป นอกจากนี้ ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีการตัดไฟที่ทำเนียบรัฐบาลต่อเนื่องจนช่วงเช้าวันนี้ ขณะตำรวจจะเข้าไปห้ามปรามได้ถูกยิงสวนด้วยหัวนอตและหนังสติ๊ก ทำให้ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ขณะเดียวกันยังมีความพยายามเข้าไปตัดรั้วลวดหนาม ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามเข้าเจรจาแล้ว แสดงให้เห็นว่ามีความพยายามคุกคาม ยั่วยุเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา
โฆษก ศอ.รส.กล่าวด้วยว่า ส่วนการตั้งโต๊ะรับแจ้งความที่กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เข้าแจ้งความเบื้องต้น 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ส่วนทรัพย์สินทางราชการยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขณะที่ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ เบื้องต้นมีผู้เข้าแจ้งความ 12 ราย ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวเช่นกัน โดยส่วนราชการอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
