โฆษก ศอ.รส.แถลงเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจสามารถตรวจยึดรถบรรทุกทรายจำนวน 250 กระสอบ พร้อมน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวน 4 ถังใหญ่ ปูดเตรียมนำกระสอบทรายไปวางเรียงรายข้างรัฐสภาเพื่อให้มวลชนปีนเข้าไปยึดรัฐสภา
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (29 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวถึงสถานการณ์ของผู้ชุมนุมว่าตั้งแต่เย็นนี้ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ผู้ชุมนุมจะมีการยกระดับการชุมนุมเพื่อต้องการให้การชุมนุมจบลงให้ได้ โดยเมื่อเวลา 23.00 น.วานนี้ (26 พ.ย.) ชุดตำรวจเคลื่อนที่เร็วได้พบรถบรรทุกขนาดใหญ่ของสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร วิ่งตามเส้นทางยมราช จักรพรรดิพงษ์ หลานหลวง เมื่อขอตรวจค้นพบถุงบรรจุทราย จำนวน 250 ถุง และถังน้ำมัน 4 ถังเต็ม โดยผู้ขับรถให้การว่า จะเอาทรายไปถมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนน้ำมันจะเอาไปเติมเครื่องปั่นไฟ โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้นำรถบรรทุกคันดังกล่าวไปเก็บไว้ที่ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าบริเวณแยกพณิชยการ, สะพานชมัยมรุเชฐ และหน้ารัฐสภา มีเวทีตั้งอยู่ โดยเวทีหันหน้าเข้าหาทำเนียบห่าง 30 ม.เจ้าหน้าที่ยังพบถุงทรายวางรอบบริเวณพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งผู้ชุมนุมอาจใช้เป็นเครื่องมือในการปีนเข้าไปยังอาคารรัฐสภา
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้เตรียมดำเนินคดีแกนนำกรณีตัดไฟ ร่วมกันกระทำการใดๆ แก่สิ่งที่ใช้เป็นพลังงานไฟฟ้า หรือในการนำส่งน้ำ จนเป็นเหตุให้ประชาชนขาดความสะดวก หรือน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนตาม ป.อาญา มาตรา 234 โทษจำคุก 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอีกกรณีการยิงหนังสติ๊ก เข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ โดยจะดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะทำการตามหน้าที่ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท ผิดมาตรา 296 โดยแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.ปทุมวัน แล้ว
โฆษก ศอ.รส.กล่าวด้วยว่า จากข้อมูลด้านการข่าว ศอ.รส.มีความเป็นห่วง เนื่องจากมีหลักฐานชี้ชัดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีความพยายามก่อเหตุรุนแรง อาทิ พื้นที่การวางแนวป้องกันของตำรวจ บริเวณแยกพาณิชยการ สะพานชมัยมรุเชฐ มีการจัดตั้งเวทีปราศรัยอยู่ห่างจากแนวกั้นตำรวจ 30 เมตร และเวทีหันหน้าเข้าทำเนียบรัฐบาล มีการเตรียมถุงทรายจำนวนมาก มาวางแนวหน้าแท่งแบริเออร์ และมีความพยายามวางในหลายจุด