รองโฆษกสำนักนายกฯ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวใน บช.น.ปฏิเสธ ตร.จ้องจับตัว “ลูกชายสุเทพ” เป็นตัวประกันเพื่อบีบให้ผู้ต้องหาตามหมายจับมอบตัว มั่นใจกองทัพจะไม่ออกมายุติความขัดแย้งทางการเมือง ยังไม่อายปากเตือน ปชช.อย่าหลงเชื่อแกนนำระวังตกเป็นโล่มนุษย์
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตํารวจนครบาล ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกสํานักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รอง ผบก.น.1 แถลงสถานการณ์ชุมนุม ร.ท.หญิง สุนิสา กล่าวว่าตามที่มีการปล่อยข่าวบนเวทีปราศรัยของผู้ชุมนุม อ้างว่าทางเจ้าหน้าที่จะทําการจับกุมตัวลูกของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นตัวประกัน เพื่อกดดันให้นายสุเทพมอบตัวนั่น รัฐบาลได้ทําการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแล้วพบว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีความเป็นไปได้ เนื่องจากตํารวจคือผู้รักษากฎหมาย จะทำในเรื่องที่ขัดต่อหลักกฎหมายได้อย่างไร ส่วนในเรื่องการสลายการชุมนุมเพื่อบุกจับตัวนายสุเทพนั้น คงเป็นเพราะกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการปลุกระดมมวลชนให้มาร่วมชุมนุมมากที่สุด เพื่อที่จะใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ให้นายสุเทพ ตนอยากขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลือ เมื่อศาลได้อนุมัติหมายจับแล้วนายสุเทพคงหนีความผิดไม่พ้น นอกจากนี้ทาง ศอ.รส.ได้ประสานไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ เพื่อขึ้นแบล็กลิสต์ ป้องกันนายสุเทพหลบหนีออกนอกประเทศ ส่วนกรณีการชุมนุมของกลุ่ม นปช.เจ้าหน้าที่ก็จะไม่เลือกปฏิบัติหากมีการกระทําที่ผิดกฎหมาย ตํารวจก็ต้องดําเนินคดีเช่นกัน ไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไร แต่หากเป็นการแสดงออกทางการเมืองที่ยังอยู่ในกรอบของกฎหมาย ก็ถือเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวต่อว่าอีกทั้งการที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พากลุ่มผู้ชุมนุมไปที่กระทรวงกลาโหมนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ผิดหลักประชาธิปไตย เพราะเป็นการกดดันให้ทหารเข้ามาแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกเห็นด้วยกับการดึงทหารเข้ามายุติความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งทางกองทัพเองก็ได้มีการยืนยันตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่า จะไม่มายุ่งเรื่องการเมือง ขอให้หยุดแอบอ้างว่ากระทรวงกลาโหมจะสนับสนุนการโค่นล้มรัฐบาล
โดยทาง พล.อ.นิพันธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดคุยหรือเจรจากับแกนนําเลย และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กําชับไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่อาจเดินทางมาชุมนุมตามหน่วยทหารต่างๆ ส่วนเรื่องการแก้ไขสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ ปลัดกระทรวงกลาโหม ก็ยืนยันว่า ยังไม่มีการใช้กําลังทหารออกมาปฏิบัติการใดๆ ทั้งสิ้น กองทัพมีหน้าที่เพียงการป้องกันสถานที่ตั้งของตนเองเท่านั้น ความรับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ในภาพรวม ยังคงเป็นของผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศอ.รส.
พ.ต.อ.ทรงพล กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมในวันนี้ ทั้ง 3 ขบวนล้วนแต่สร้างผลกระทบทางด้านจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นวงกว้าง และกว่าที่ตํารวจจราจรจะลงพื้นที่อํานวยความสะดวกให้กับประชาชนได้ก็ใช้เวลานาน นอกจากนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศอ.รส.ได้กําชับให้ตํารวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลพื้นที่สําคัญคือ บริเวณทําเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะแนวตํารวจที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ให้ใช้ความอดทนอดกลั้นต่อผู้ชุมนุม อย่าได้ตอบโต้ใด และห้ามใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาดแม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะกลั่นแกล้งต่างๆ ก็ตาม แกนนําที่ดูแลการชุมนุมควรจะควบคุมการ์ดให้ดีด้วย เพราะทุกคืนจะมีการตั้งวงดื่มสุรากัน พอเมาก็ออกมาทําร้ายเจ้าหน้าที่ นําประทัดยักษ์ หนังสติ๊ก มายิงใส่แนวตํารวจ ขอร้องให้หยุดการกระทําดังกล่าว ตํารวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีการจับภาพไว้ได้ชัดเจน เห็นหมดทุกอย่าง คนที่มาแกล้งมาทําร้ายก็ออกมาจากลุ่มผู้ชุมนุม ทําเสร็จก็หนีเข้าไปในกลุ่ม ขอร้องให้หยุดการกระทําดังกล่าวด้วย
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตํารวจนครบาล ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกสํานักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รอง ผบก.น.1 แถลงสถานการณ์ชุมนุม ร.ท.หญิง สุนิสา กล่าวว่าตามที่มีการปล่อยข่าวบนเวทีปราศรัยของผู้ชุมนุม อ้างว่าทางเจ้าหน้าที่จะทําการจับกุมตัวลูกของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นตัวประกัน เพื่อกดดันให้นายสุเทพมอบตัวนั่น รัฐบาลได้ทําการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแล้วพบว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีความเป็นไปได้ เนื่องจากตํารวจคือผู้รักษากฎหมาย จะทำในเรื่องที่ขัดต่อหลักกฎหมายได้อย่างไร ส่วนในเรื่องการสลายการชุมนุมเพื่อบุกจับตัวนายสุเทพนั้น คงเป็นเพราะกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการปลุกระดมมวลชนให้มาร่วมชุมนุมมากที่สุด เพื่อที่จะใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ให้นายสุเทพ ตนอยากขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลือ เมื่อศาลได้อนุมัติหมายจับแล้วนายสุเทพคงหนีความผิดไม่พ้น นอกจากนี้ทาง ศอ.รส.ได้ประสานไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ เพื่อขึ้นแบล็กลิสต์ ป้องกันนายสุเทพหลบหนีออกนอกประเทศ ส่วนกรณีการชุมนุมของกลุ่ม นปช.เจ้าหน้าที่ก็จะไม่เลือกปฏิบัติหากมีการกระทําที่ผิดกฎหมาย ตํารวจก็ต้องดําเนินคดีเช่นกัน ไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไร แต่หากเป็นการแสดงออกทางการเมืองที่ยังอยู่ในกรอบของกฎหมาย ก็ถือเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวต่อว่าอีกทั้งการที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พากลุ่มผู้ชุมนุมไปที่กระทรวงกลาโหมนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ผิดหลักประชาธิปไตย เพราะเป็นการกดดันให้ทหารเข้ามาแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกเห็นด้วยกับการดึงทหารเข้ามายุติความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งทางกองทัพเองก็ได้มีการยืนยันตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่า จะไม่มายุ่งเรื่องการเมือง ขอให้หยุดแอบอ้างว่ากระทรวงกลาโหมจะสนับสนุนการโค่นล้มรัฐบาล
โดยทาง พล.อ.นิพันธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดคุยหรือเจรจากับแกนนําเลย และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กําชับไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่อาจเดินทางมาชุมนุมตามหน่วยทหารต่างๆ ส่วนเรื่องการแก้ไขสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ ปลัดกระทรวงกลาโหม ก็ยืนยันว่า ยังไม่มีการใช้กําลังทหารออกมาปฏิบัติการใดๆ ทั้งสิ้น กองทัพมีหน้าที่เพียงการป้องกันสถานที่ตั้งของตนเองเท่านั้น ความรับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ในภาพรวม ยังคงเป็นของผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศอ.รส.
พ.ต.อ.ทรงพล กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมในวันนี้ ทั้ง 3 ขบวนล้วนแต่สร้างผลกระทบทางด้านจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นวงกว้าง และกว่าที่ตํารวจจราจรจะลงพื้นที่อํานวยความสะดวกให้กับประชาชนได้ก็ใช้เวลานาน นอกจากนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศอ.รส.ได้กําชับให้ตํารวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลพื้นที่สําคัญคือ บริเวณทําเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะแนวตํารวจที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ให้ใช้ความอดทนอดกลั้นต่อผู้ชุมนุม อย่าได้ตอบโต้ใด และห้ามใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาดแม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะกลั่นแกล้งต่างๆ ก็ตาม แกนนําที่ดูแลการชุมนุมควรจะควบคุมการ์ดให้ดีด้วย เพราะทุกคืนจะมีการตั้งวงดื่มสุรากัน พอเมาก็ออกมาทําร้ายเจ้าหน้าที่ นําประทัดยักษ์ หนังสติ๊ก มายิงใส่แนวตํารวจ ขอร้องให้หยุดการกระทําดังกล่าว ตํารวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีการจับภาพไว้ได้ชัดเจน เห็นหมดทุกอย่าง คนที่มาแกล้งมาทําร้ายก็ออกมาจากลุ่มผู้ชุมนุม ทําเสร็จก็หนีเข้าไปในกลุ่ม ขอร้องให้หยุดการกระทําดังกล่าวด้วย