ทนายความ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” แกนนำโค่นระบอบทักษิณ ร้องศาลอาญาเพิกถอนหมายจับ 2 ข้อหา คดีบุกกระทรวงการคลัง ยันตำรวจควรออกหมายเรียกก่อน ระบุหากไม่เป็นผลจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (27 พ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายเจษฎา อนุจารี ทนายความนายสุเทพ พร้อมทีมทนายความ ได้เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ศาลอาญาพิจารณาเพิกถอนคำสั่งอนุมัติหมายจับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รวมทั้งโค่นระบอบทักษิณ เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา รวม 2 ข้อหา คือ มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และบุกรุกเข้าไปในอาคารสถานที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และ 365 กรณีที่นำมวลชนบุกปิดล้อมกระทรวงการคลัง โดยขณะนี้คำร้องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลเพื่อมีคำสั่งต่อไป
นายเจษฎา ทนายความ กล่าวว่า การยื่นคำร้องวันนี้ เพื่อขอให้ศาลทบทวนการออกหมายจับโดยขอให้มีการไต่สวนพยานด้วย เพราะเห็นว่ากระบวนการขออนุมัติหมายจับนั้น ไม่เป็นไปตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 59/1, มาตรา 66 ว่าก่อนออกหมายจับ จะต้องปรากฏพยานหลักฐานตามสมควร ทำให้ศาลเชื่อว่ามีเหตุออกหมายจับได้ และบุคคลนั้นไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการออกหมายจับข้อ 14 และ ข้อ 16 ทั้งนี้หากศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้องของเราที่ขอให้ไต่สวนและเพิกถอนหมายจับ เราก็จะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อไป
เมื่อถามว่าการที่ นายสุเทพ ไม่เข้ามอบตัวภายหลังศาลมีคำสั่งออกหมายจับแล้วจะมีผลตามกฎหมายอย่างไรหรือไม่
นายเจษฎา กล่าวว่า ที่ผ่านมา คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ประกาศชัดเจนอยู่แล้วว่า ยินดีจะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจเรียบร้อยแล้ว
ภายหลังศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอให้เพิกถอนหมายจับ เนื่องจากเห็นว่าศาลออกหมายจับโดยชอบแล้ว ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงมีคำสั่งยกคำร้อง
ด้าน นายเจษฎา กล่าวว่า หลังจากนี้ได้เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาล ที่ไม่อนุญาตให้ไต่สวนคำร้องเพื่อเพิกถอนหมายจับ โดยจะชี้แจงให้ศาลเห็นว่ากระบวนการขอหมายจับของตำรวจไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับของศาลฎีกา และนายสุเทพมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งไม่มีพฤติการณ์หลบหนี สามารถออกหมายเรียกได้ โดยไม่ต้องออกหมายจับ ในวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.ถ้าศาลยกคำร้องอุทธรณ์ ก็จะฎีกาคำสั่งต่อไป
ด้านนายถาวร เสนเนียม กล่าวยืนยันว่า ภายหลังถูกออกหมายจับ นายสุเทพ ก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน ยังคงชุมนุมอยู่ ซึ่งตนก็อยู่ด้วยกันกับนายสุเทพตลอดทั้งคืน โดยภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจแล้วนายสุเทพก็จะเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแน่นอน อย่างไรก็ตามตนเคารพคำสั่งของศาล แต่ขอฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอย่าฟังคำสั่งจากทางการเมือง และขอให้หยุดการกระทำ 2 มาตรฐาน ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงก็ชุมนุมเกิน 10 คน แต่ไม่มีการออกหมายจับ แต่กลับเจาะจงออกหมายจับเฉพาะนายสุเทพ ทั้งนี้ ตนเกรงว่าหากใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก เข้าจับกุมนายสุเทพ อาจจะเกิดการปะทะกันกับพี่น้องผู้ชุมนุมได้ ซึ่งตำรวจควรหันมาสนใจคดีปล้นฆ่าและคดีอาชญากรรมข้ามชาติที่มีความสำคัญ มากกว่าคดีการเมือง