โฆษก บช.น. เปิดเผยห้ามม็อบต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้ามาในพื้นที่หวงห้าม 11 จุดเด็ดขาด ฝ่าฝืนพร้อมยิงแก๊สน้ำตาโต้ตอบทันที แต่แจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้าตามหลักสากล เบื้องต้นยังยึดหลักการเจรจาก่อน
วันนี้ (10 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บช.น. ได้สรุปสถานการณ์การชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประจำวันที่ 9-10 พ.ย.2556 โดยเปิดเผยว่า ตามที่ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ได้ชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นั้น พบว่า บริเวณกลุ่มผู้ชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รวมตัวกันอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน มียอดสูงสุดเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 9 พ.ย. จำนวน 17,500 คน และช่วงเช้าของวันที่ 10 พ.ย.2556 เหลือผู้ชุมนุมประมาณ 300 คน ส่วนกลุ่มกองทัพประชาชนต่อต้านระบอบทักษิณ (กปท.) ยังรวมตัวอยู่ที่สะพานผ่านฟ้า มียอดสูงสุดเมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 9 พ.ย.2556 และกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) รวมตัวกันที่บริเวณหน้ากองทัพบก สะพานมัฆวาน มียอดสูงสุด เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 9 พ.ย. ยอดจำนวน 1,300 คน โดยช่วงเช้าของวันที่ 10 พ.ย. เหลือผู้ชุมนุมประมาณ 100 คน
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.45 น. ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้หนังสติ๊กยิงหัวนอตเข้าใส่ตู้ยามสันติบาลที่บริเวณสะพานมัฆวาน ทำให้ได้รับความเสียหายกระจกหน้าตู้แตก และทราบว่า กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวาน ซึ่งเป็นกลุ่ม คปท. ได้วิ่งออกมาจากกลุ่มผู้ชุมนุม และมายืนหน้าแนวกั้นแท่งปูนแบริเออร์ แล้วใช้หนังสติ๊กยิงหัวนอตเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม จากกรณีดังกล่าวแสดงว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ยังได้ทำลายสถานที่ และทรัพย์สินของทางราชการอีกด้วย ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จึงขอวิงวอนให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ อย่าสร้างสถานการณ์ที่จะทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้
“เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามดูแลความปลอดภัยให้แก่กลุ่มผู้ชุมนุม โดยได้ตั้งจุดตรวจเข้มแข็ง และมีการควบคุมพื้นที่บริเวณโดยรอบพื้นที่ชุมนุมมากกว่า 500 เมตร และมีวงรอบการระมัดระวัง ออกไปเป็น 3 วงรอบ คือ วงรอบใน วงรอบกลาง และวงรอบนอก ซึ่งก็มีความเชื่อมั่นว่า จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีต่อไป” โฆษก บช.น.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการติดป้ายข้อความเขตพื้นที่ใช้แก๊สน้ำตา ห้ามฝ่าฝืนบุกรุกเข้ามาโดยเด็ดขาดที่บริเวณสะพานมัฆวานนั้น พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า บริเวณดังกล่าวเป็นการเตรียมสถานการณ์ ซึ่งมีทั้งหมด 11 จุด ที่เป็นพื้นที่ปิดกั้นเพื่อความมั่นคง และเป็นขั้นตอนการปฏิบัติตามรูปแบบสากล โดยเบื้องต้น จะใช้การเจรจาเป็นหลักก่อน แต่หากเจรจาแล้วกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ฟังยังบุกเข้ามาในพื้นที่หวงห้ามก็จะมีขั้นตอนดำเนินการ ทั้งการใช้น้ำหรือแก๊สน้ำตา แต่จะมีการประกาศแจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้าหากจะมีการใช้ขั้นตอนดังกล่าว