“แจ๊ด” ยันย้ายตำรวจสาย ปชป.เอามาช่วยงานเจรจาม็อบ เผยเจตนาดีไม่คิดกลั่นแกล้งใคร ชี้เคลียร์ “อัศวิน” แล้ว แค่ต้องการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง และให้ผู้ชุมนุมมีปลอดภัยที่สุด จึงมีการค้นอาวุธตั้งด่านตรวจทุกจุดเพื่อความปลอดภัย ไม่ใช่เป็นการสกัดกั้นมวลชนที่จะเข้าไปชุมนุมแต่อย่างใด
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เปิดเผยถึงกรณีที่มีคำสั่งให้ย้ายนายตำรวจ 4 นายที่เป็นคนใกล้ชิดสายพรรคประชาธิปัตย์ มาช่วยราชการในช่วงที่มีการชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ รอง ผบก.น.7 2.พ.ต.ท.สถิตย์ สังข์ประไพ รอง ผกก.สส.สน.สายไหม 3.ร.ต.อ.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง รอง สว.กก.สส.บก.น.6 และ 4.พ.ต.ต.อิทธิพล สังข์ประไพ สว.กก.สส.บก.น.5 ว่า เรื่องคำสั่งให้มาช่วยราชการก็ไม่มีอะไรมาก ต้องบอกก่อนว่าทุกครั้งที่มีม็อบชุมนุม ตำรวจต้องการให้จบด้วยการเจรจา ทุกอย่างต้องมีการพูดคุยกัน อีกทั้งตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลม็อบอยู่ก็ทำตามกฎหมาย ไม่มีใครที่จะเข้าไปทำอะไรรุนแรงเด็ดขาด ดังนั้น หากใครหรือตำรวจนายใดที่เข้ามาช่วยเรื่องการประสานงานได้ หรือช่วยในเรื่องการข่าวเราก็จะเอามาอยู่ในทีม
“ตำรวจทั้ง 4 คนที่เป็นลูกหลานญาติของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่เอามาช่วยราชการช่วงชุมนุมทางการเมือง ก็ไม่มีปัญหาอะไรกัน พล.ต.อ.อัศวิน ก็เป็นเพื่อนกัน ที่เอามาก็เป็นหลานผม” ผบช.น.กล่าว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า ที่นำตำรวจทั้ง 4 นายมาช่วยนั้น มีเหตุผลคือ 1.เอามาช่วยด้านการข่าว 2.การประเมินสถานการณ์ต่อไปนั้น หากมีการประเมินผิดจะนำไปสู่ปัญหา และที่สำคัญคือที่ให้ช่วยในเรื่องการเจรจาระหว่างตำรวจ กับกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะบางทีกลุ่มนายตำรวจที่เราเอามาช่วยเจรจา ผู้ชุมนุมอาจจะเชื่อถือมากกว่าชุดเจรจาของตำรวจที่จัดเตรียมไว้ ยืนยันได้ว่า ไม่มีการกลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น และไม่มีอคติในการดึงตัวมาช่วยราชการ เพียงแต่เอามาช่วยเจรจาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง
“ผมคุยกับพี่อัศวินแล้ว ทุกอย่างเคลียร์ไม่มีปัญหากัน รวมถึงนายตำรวจทั้ง 4 คนก็เข้ามาคุยกันแล้ว ทุกคนยินดีเต็มใจมาช่วยกันเพื่อนำพาไปสู่ความไม่รุนแรง” ผบช.น.กล่าว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ยังกล่าวถึงกลุ่มผู้ชุมนุมที่คัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่มีการปรับแผนใดๆ แต่ให้ยึดถือข้อปฏิบัติตามกฎหมายเป็นหลัก ส่วนที่ว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผ่านวาระ 2 และ 3 ไปแล้วจะมีเหตุรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่นั้น เรื่องนี้คงไม่มีปัญหา เพราะทาง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาพูดแล้วว่าไม่กังวลกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะทางมวลชนก็มีแกนนำจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ชัดเจน อีกทั้งส่วนตัวเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ และมีเจตนาดีที่ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงขึ้น
ผบช.น.กล่าวอีกว่า ในส่วนมือที่สามที่กังวล ยืนยันว่าตำรวจจะป้องกันอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเข้าไปทำร้ายผู้ชุมนุมเด็ดขาด ถึงแม้ว่าเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา มีแกนนำขึ้นเวทีด่าทอว่าเป็นมือที่สามที่เข้ามาก่อเหตุใส่ผู้ชุมนุมเอง คืออยากพูดก็พูดไป แต่เจตนาตนคือต้องการให้ผู้ชุมนุมปลอดภัยที่สุด ถึงได้มีการค้นอาวุธตั้งด่านตรวจทุกจุดเพื่อความปลอดภัย ไม่ใช่เป็นการสกัดกั้นมวลชนที่จะเข้าไปชุมนุมแต่อย่างใด
“ถ้าเราไม่มีด่าน อะไรจะเกิดขึ้นตามมาอีก เพราะฉะนั้นขอให้สบายใจได้ว่าตำรวจจะดูแลความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่ ทุกกลุ่ม ทุกคน” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย