ปทุมธานี - ผบช.ภาค 1 ปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรม “ยุทธการปราบคนพาลอภิบาลรังสิต” โดยเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายเสี่ยงก่อเกิดอาชญากรรมและยาเสพติด พร้อมแถลงจับกุมผู้ต้องหลบหนีคดี “หนึ่ง ท่าเรือ” มือปืนหลบหนีคดีฆ่าคนตายและข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี มากบดานเป็นคนงานก่อสร้าง
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่บริเวณลานจอดรถศูนย์การค้าฟิวเจอร์คพาร์ค รังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และหัวหน้าส่วนราชการ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี, เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. พร้อมด้วยตำรวจทางหลวง ตชด.ภาค 1 ทหารอากาศ, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่เหยี่ยวเวหาปทุมธานี รวมกว่า 706 นาย พร้อมด้วยสายตรวจรถยนต์และจักรยานยนต์ เพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรม และยาเสพติด พร้อมตั้งด่านสกัดกั้นยาเสพติดบนถนนสายหลักและสายรอง ได้สนธิกำลังชุดปฏิบัติการ “ยุทธการปราบคนพาลอภิบาลรังสิต” แถลงผลปูพรมกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรม สามารถจับกุมได้ 499 ราย ได้ผู้ต้องหาหลายคดี รวมผู้ต้องหา 524 ราย พร้อมด้วยของกลางเป็นปืนจำนวน 39 กระบอก กระสุนปืนจำนวน 456 นัด ยาเสพติดยาบ้า 204,070 เม็ดยาไอซ์ 13.8 กรัม กัญชา 81.8 กรัม กระท่อม 202 ใบ เงินสด 415,000 บาท และทรัพย์สินจากการโจรกรรมจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ ในจำนวนที่จับได้มี 2 คดีสำคัญ ซึ่งผู้ต้องหามีพฤติกรรมเป็นกลุ่มแก๊งมือปืน และก่อเหตุรับจ้างฆ่ามาหลายคดี คือ นายวิทยา หรือหนึ่ง ท่าเรือ ไกลเสนีย์ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุคดีฆ่าคนตายมา 3 คดี ตั้งแต่ปี 2548 ท้องที่ สภ.อุทัย สภ.บางปะอิน สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และมีคดีข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ท้องที่ สภ.ท่าเรือ อีก 1 คดี ถือเป็นผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามล่าตัว พร้อมกับสารภาพหลบหนีเป็นคนงานก่อสร้างที่ตั้งแคมป์ไม่เป็นหลักแหล่งเพื่อหาตัวได้ยาก โดยล่าสุดนายวิทยาได้ก่อเหตุยิงคนตายท้องที่ สภ.ท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับนายนันทพงษ์ ทองทา หลานชาย ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 รายจับกุมตัวได้ที่แมนชั่นแห่งหนึ่งใน กทม. แต่ตำรวจเตรียมสอบสวนขยายผลว่ามีคดีพัวพันกับมือปืนรับจ้างตามบัญชีหรือไม่
พล.ต.ท.นเรศกล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่าอาวุธปืนหาง่าย จึงวางมาตรการตรวจค้นจับกุมผู้ที่ครอบครองอาวุธปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และเพิ่มความเข้มตรวจตราการพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาตโดยเคร่งครัด จึงให้ระดมกวาดล้างจับอาวุธปืนให้ได้ตามเป้าที่กำหนดรวมถึงการตั้งด่านตรวจค้นอาวุธ และตรวจค้นรถต้องสงสัย พร้อมจับกุมผู้กระทำผิดตามหมายจับต่างๆ จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเน้นการตรวจเยี่ยมประชาชนและเป้าหมายในการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เน้นในเรื่องของคดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิดคดีความผิดยาเสพติด คดีความผิดเกี่ยวกับแหล่งอบายมุขและสถานบริการที่กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งจะต้องมีผลการจับกุมทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มต่างๆ ที่ก่ออาชญากรรม ฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ ต้องหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อกำจัดให้หมดไปเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ชาวปทุมธานี
พล.ต.ท.นเรศยังกล่าวอีกว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 1 พร้อมชุดปราบไพรีอริศัตรูพ่าย ได้ทำการจับกุมตัวนายวิทยา หรือหนึ่ง ท่าเรือ ผู้ต้องหาก่อเหตุคดีฆ่าคนตาย 3 คดี ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา ในท้องที่ สภ.อุทัย สภ.บางปะอิน และ สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และมีคดีข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ท้องที่ สภ.ท่าเรือ อีก 1 คดี ตนเองถือว่าเป็นผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์ ที่มีการหลบหนีมากว่า 8 ปี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ละเลยจึงสั่งการให้เร่งไล่ตามล่าตัวมาจนได้ นายวิทยา ผู้ต้องหาสารภาพข้อกล่าวหา โดยได้หลบหนีไปเป็นคนงานก่อสร้างและพักอาศัยที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง ในย่าน กทม.
หลังจากปล่อยแถวกวาดล้างช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมกลุ่มเป้าหมายที่พัวพันยาเสพติดและติดตามตามหมายจับคดีค้างเก่า จนได้ของกลางมากมาย พร้อมแถลงข่าวผลการจับกุมกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรมในพื้นที่ตามยุทธการ “ปราบคนพาลอภิบาลรังสิต” สามารถกวาดล้างจับกุมได้ของกลางยาเสพติด ยาบ้ากว่า 2.4 แสนเม็ด, ยาไอซ์จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนมาก ส่วนนายนิรันดร์ หรือบี้ เพ็งพุด อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148ซอยรามอินทรา 2 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ที่โลตัสสาขาเมืองปทุมธานี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 105 มัด (รวมยาบ้าจำนวน 210,000 เม็ด) ที่ซุกซ่อนในถุงสีฟ้า โดยเจ้าหน้าที่พบภายในรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน 1 กผ-7932 กทม.
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน โดยมี พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุนทร หิมารัตน์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี จับกุมเพื่อนร่วมแก๊งได้เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลเฝ้าติดตาม จนกระทั่งนายนิรันดร์ หรือบี้ ผู้ต้องหา ได้นำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าที่ย่านโลตัส สาขาเมืองปทุมธานี เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมตัวไว้ได้พร้อมยึดทรัพย์สินอีกหลายรายการ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย