เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในคอนโดย่านประเวศ ชั้นที่ 3 จากการตรวจสอบพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายถูกเผาดำเป็นตอตะโก 1 ราย สอบสวนเบื้องต้นก่อนเกิตเหตุผู้ตายไปดื่มสุรา และมีอาการมึนเมาและคงจุดสูบบุหรี่บนที่นอน จนเกิดไฟลุกไหม้ และไม่สามารถหลบหนีได้ เนื่องจากสำลักควันไฟ จนเสียชีวิตดังกล่าว
วันนี้ (30 ต.ค.) ร.ต.อ.วัลลภ จำเนียนสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สน.บางนา รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในอาคารสวนหลวงคอนโดมิเนี่ยม ตึกซี ซอยเฉลิมพระเกียรติ 14 แยก 22 แขวงและเขตประเวศ จึงประสานรถน้ำดับเพลิงหน่วยป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย กทม.3 คัน ไปทำการดับเพลิง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 5 ชั้น บริเวณชั้น 3 มีแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากห้องเลขที่ 63/71 เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบภายในห้องดังกล่าวได้รับเสียหายทั้งห้อง ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า และหนังสือเพลงจำนวนมาก บริเวณกลางห้อง พบศพนายปราโมทย์ พันธ์ศรี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/336 หมู่ 14 อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ สภาพศพนอนคว่ำหน้า ตามร่างกายถูกไฟไหม้เป็นตอตะโกจนจดจำสภาพไม่ได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐานก่อนนำศพส่งแผนกนิติเวชวิทยา รพ.จุฬาลงกรณ์
จากการสอบสวนทราบว่าห้องดังกล่าวเป็นของนายพีรเชษฐ์ ชูเนตร อายุ 44 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง อาศัยอยู่ห้องดังกล่าวมาประมาณ 1 ปีเศษ โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 2 วัน ผู้ตายซึ่งเป็นลูกน้องที่ทำงานด้วยกันได้มาขออาศัยอยู่ด้วย ซึ่งทั้งคู่ชื่นชอบดื่มสุรา และสูบบุหรี่ภายในห้องทุกวัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุนายพีรเชษฐ์ และผู้ตายได้ไปดื่มกินร้านอาหารที่อยู่ปากซอยเฉลิมพระเกียรติ กระทั่งกลางดึกผู้ตายได้ขอกุญแจห้องเพื่อขอตัวกลับไปกินเหล้าต่อที่ห้องพัก
ต่อมาเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.นายปรีชา งามขำ รปภ.ของอาคารดังกล่าว ได้ขึ้นไปเข้าห้องน้ำบนห้องพักบนชั้น 4 ได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงชะโงกหน้าออกมาดูที่ระเบียง พบว่ามีแสงเพลิงจำนวนมากออกจากห้องพักของผู้ตายก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการดับเพลิง
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายได้ดื่มสุราและสูบบุหรี่ภายในห้องพักจนมีอาการมึนเมา และอาจทำก้นบุหรี่ตกเป็นเหตุให้เพลิงลุกไหม้ จนกระทั่งตนเองไม่สามารถหลบหนีได้ เนื่องจากสำลักควันไฟเข้าไปหมดสติเสียชีวิตภายในห้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อมาทำการตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป