สืบ 4 รวบผัวเมียค้าโคเคน ยึดของกลางได้มูลค่าร่วมล้านบาท เมียอ้างเพิ่งรู้ว่าผัวชาวไนจีเรียค้า จึงเกิดความเครียดทะเลาะกันตลอดจนต้องเอายาไอซ์มาเสพ
วันนี้ (29 ต.ค.) พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.สส.บก.น.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายชิบูคิ พอล โอลัว หรือนายพอล อายุ 33 ปี สัญชาติไนจีเรีย และนางนิตยา เอ็มบากี อายุ 33 ปี สองสามีภรรยา พร้อมด้วยของกลางเป็นยาไอซ์ จำนวน 12.69 กรัม โคเคน จำนวน 700 กรัม มูลค่ารวมกันประมาณ 1 ล้านบาท บัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย 1 เล่ม กระเป๋าเดินทางสีดำ จำนวน 1 ใบ และโทรศัพท์ จำนวน 2 เครื่อง
พ.ต.อ.สง่ากล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นางนิตยา ได้ร่วมกับนายชิบูคิ พอล โอลัว สามีซึ่งเป็นชาวไนจีเรีย ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดทั้งยาไอซ์ และโคเคนให้แก่วัยรุ่นทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติย่านรามคำแหง โดยพักอยู่ที่อาคาร 3 แสนสบายคอมเพล็กซ์ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จึงไปเฝ้าสังเกตการณ์ พบนางนิตยาเดินลงมาจากอาคาร ลักษณะท่าทางคล้ายคนมีอาการมึนเมายาเสพติด จึงเข้าไปขอตรวจค้น โดยนางนิตยาพูดจาวกวนและตกใจ จึงควบคุมตัวไปตรวจหาสารเสพติดพบว่าเสพยาไอซ์ จากนั้นนางนิตยาจึงรับสารภาพว่าตนนำยาเสติดมาจากนายชิบูคิ พอล โอลัว หรือพอล สามีของตนเอง และได้นำยาไอซ์ที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อยกทรงของตนเองออกมาให้แก่เจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า นายพอล เพิ่งออกไปส่งยาเสพติดให้แก่ลูกค้าที่หน้าปากซอยรามคำแหง 60/4 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบนายพอล เดินอยู่บริเวณปากซอยดังกล่าว จึงเข้าไปควบคุมตัว จากนั้นนำตัวไปขยายผลตรวจค้นห้องพักเลขที่ 3301 แสนสบายคอมเพล็กซ์ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ พบโคเคนซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางวางอยู่ข้างตู้เย็นจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจสอบบัญชีธนาคารพบว่ามีเงินหมุนเวียนจำนวนนับล้านบาท และประสานไปยัง ป.ป.ส.อายัดเงินในบัญชีแล้ว 380,000 บาท
เมื่อสอบสวน นางนิตยาให้การว่า ตนคบกับนายพอล มาประมาณปีกว่าๆ เพิ่งมาทราบว่านายพอล ลอบจำหน่ายยาเสพติดเมื่อไม่นานมานี้ จึงเกิดความเครียด และทะเลาะกับนายพอล มาตลอด จนตนต้องนำยาไอซ์ของนายพอล มาเสพแก้เครียด ทั้งนี้ จากการสอบถามสามีตนทราบว่าแอบลอบจำหน่ายยาไอซ์ และโคเคนในพื้นที่ย่านรามคำแหงมานานแล้ว รับมาจากเพื่อนชาวผิวสีด้วยกันซึ่งอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ทางภาคใต้รับมากิโลกรัมละ 1 ล้านบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานางนิตยา ว่ามียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 2 (โคเคน) ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนนายพอล เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 2 (โคเคน) ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรและอยู่อาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เจ้าของพื้นที่ดำเนินคดีต่อไป
