โฆษก ศอ.รส.แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมเกษตรกร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ฟันธงมีหลักฐานเกี่ยวข้องกับกลุ่มม็อบที่แยกอุรุพงษ์ คาดว่าจะเดินทางมาร่วมชุมนุมที่ กทม.อย่างเเน่นอน ล่าสุดได้มีการขออนุมัติศาลออกหมายจับแกนนำชาวบ้านแล้ว 11 คน
วันนี้ (29 ต.ค.)เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงข่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ว่า จากภาพรวมทางการข่าวได้มีการยืนยันมาว่าการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่ามีหลักฐานเชื่อมโยงกับผู้ชุมนุมกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่แยกอุรุพงษ์ โดยมีกลุ่มบุคคลที่วางแผนอยู่เบื้องหลังเป็นกลุ่มเดียวกัน และมีเป้าหมายเดียวกันด้วย ทั้งนี้ยังพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเกษตกรที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการเตรียมการจะเข้ามาชุมนุมที่ กทม.โดยมีปัจจัยหลัก คือ การคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และการตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร โดยขณะนี้การชุมนุมนั้น จะเป็นไปในรูปแบบดาวกระจาย อย่างการชุมนุมของกลุ่มที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กระจายกำลังไปดูแลรับผิดชอบในส่วนนั้น และทดสอบยุทธวิธีการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การชุมนุมที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลา 11.00 น.พบว่ามีผู้ชุมนุมประมาณ 300 คน โดยล่าสุดทาง บช.ภ.7 ได้มีการขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ชุมนุมเกษตรกรจำนวน 11 ราย ตามความผิด พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 และ พ.ร.บ.ทางหลวง ประกอบด้วย นายสมชาย บุณยภูษิต, นายจำลอง ดีอ่อน, นายพีระพงศ์ แก้วนวล ซึ่ง 3 คนนี้มีคดีค้างเก่า นายจรูญ พูนยิ้ม, นายอภิรณ บัวสาย, นายมนัส บุญพัฒน์, นายวัชรพลเพิ่ม, นายทวีศิลป์ ประทีป, นายวิเชียร ศรียุทธไกร และผู้ชายไม่ทราบชื่อตามหลักฐานภาพถ่ายอีก 2 ราย ขณะเดียวกัน เมื่อเช้าที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จุดตรวจห้วยเกียบ อ.บางสะพาน สามารถจับกุมนายปราย อายุ 23 ปี ชาวพม่า พร้อมระเบิดปิงปองได้จำนวน 4 ลูก และนายสัญญา หนูขาว พร้อมยึดของกลางเป็นเครื่องกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 11 นัด ขวาน 1 ด้าม และหนังสติ๊ก 1 อัน ส่วนที่จุดตรวจห้วยเสียง อ.บางสะพานน้อย เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายบุญชู นิลเถื่อน พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม.เครื่องกระสุนปืน 19 นัด โดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะมีการนำอาวุธดังกล่าวเข้าไปสร้างสถานการณ์