ตร.เรียกญาติเมีย “เอ็กซ์” สอบปากคำคลี่ปมฆ่า!

ตำรวจเรียกญาติเมีย “เอ็กซ์-จักรกฤษณ์” สอบเครียด เอี่ยวปมสังหารหรือไม่ ด้านพนักงานสอบสวนยังมุ่งประเด็นความขัดแย้งกับผู้ใหญ่ในครอบครัวภรรยา

วันนี้ (27 ต.ค.) ความคืบหน้าการเสียชีวิตของ นายจักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ที่ถูกมือปืนสังหารโหดคารถปอร์เช่ บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. กระสุนทะลวงอก เมื่อค่ำวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา

นายอธิปรัฐ กาญจนสุวรรณ รักษาการนายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับหัวกระสุนปืนว่า เป็นขนาดใดกันแน่ ระหว่างขนาด 7.62 หรือ 7.65 พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตเรื่องของวิถีกระสุนว่ามือปืนน่าจะมีความชำนาญ และมีทักษะในการยิง เนื่องจากวิถีกระสุนที่ตัวของนายจักรกฤษณ์นั้นเป็นลักษณะในการยิงของมุมกด ซึ่งคนยิงจะต้องยิงในท่ายืน และร่องรอยกระสุนที่บริเวณกระจกด้านหน้าข้างขวา ทำให้เชื่อได้ว่าไม่น่าจะเป็นการยิงในลักษณะเอี้ยวตัวยิงเอ็กซ์ จักรกฤษณ์

ขณะเดียวกัน วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี ได้เรียกญาติของ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนตัวของ พญ.นิธิวดีนั้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไว้หมดแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ และจะประชุมสรุปความคืบหน้าคดีที่ ห้องประชุม สน.มีนบุรี ในเวลา 15.00 น. ส่วนประเด็นการสังหารนั้นฝ่ายสืบสวนยังคงมุ่งไปที่ความขัดแย้งในครอบครัว โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างนายจักรกฤษณ์กับฝ่ายครอบครัวของ พญ.นิธิวดี ภรรยา ซึ่งน่าจะมีสาเหตุมาจากความประพฤติของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์เอง จนทำให้เกิดความขัดแย้งกันกับผู้ใหญ่ของภรรยา ส่วนจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุนั้น มีความชัดเจนแล้วว่า เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

ทอ.อนุญาตให้ ตร.สอบปากคำ ทหารทีม รปภ.หมอนิ่ม

พ.ต.ท.บุญเยี่ยม กันเกตุ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้างานสอบสวน สน.มีนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกองทัพอากาศอนุญาตให้ตำรวจเข้าสอบปากคำทหารอากาศทั้ง 4 นายที่เป็นทีม รปภ.ของหมอนิ่มแล้ว โดยจะให้ตำรวจเข้าไปสอบปากคำภายในฐานทัพอากาศดอนเมืองในวันพรุ่งนี้ หลังจากสอบปากคำแล้วก็จะตรวจสอบอาวุธปืนของทหารทั้ง 4 นายอีกด้วย ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้เกือบจะทุกคนแล้ว คาดว่าอาทิตย์หน้าก็คงไม่เหลือบุคคลที่ต้องเรียกมาสอบปากคำอีก จากนั้นจะรวบรวมผลการสอบปากคำทั้งหมดส่งให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป