“ป๋าลอ” ได้รับการพักการลงโทษและถูกปล่อยตัวแล้วเมื่อเย็นวานนี้ หลักจากมีการยื่นเรื่องขอรับการพักโทษจำนวน 2 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ผบ.เรือนจำบางขวางระบุเป็นนักโทษชั้นเยี่ยมและติดคุกมาแล้ว 1 ใน 3 ของโทษ ซึ่งเข้าข่ายในการพักโทษ หลังจากนี้ส่งไม้ต่อให้กรมคุมประพฤติ
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงยุติธรรมพิจารณาหลักเกณฑ์คำร้องการพักโทษของนายชลอ เกิดเทศ ผู้ต้องขังคดีจ้างวานฆ่า 2 แม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ หลังจากได้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาพักการลงโทษของเรือนจำ และส่งเรื่องไปยังกรมราชทัณฑ์กลั่นกรองตรวจสอบคุณสมบัติว่า กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์ ได้พิจารณาเรื่องดังกล่่าวแล้ว จากนั้นจึงส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการพักการลงโทษ โดยมีกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ร่วมกับผู้แทนอีกกว่า 10 หน่วยงาน ร่วมกันพิจารณา เพื่อส่งเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาอีกครั้ง สำหรับนายชลอนั้นได้เคยยื่นเรื่องมาแล้ว 2 ครั้ง แต่คณะกรรมการเห็นว่ายังไม่เหมาะสมและเป็นคดีที่มีความรุนแรงและสะเทือนขวัญสังคม ซึ่งการพิจารณาในนี้เป็น ครั้งที่ 3
“นายชลอมีคุณสมบัติพักการลงโทษตรงตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ คือเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม จำคุกมาแล้ว 1 ใน 3 ของโทษ หรือ 18 ปี ในโทษจำคุกตลอดชีวิต และนายชลอยังเข้าเงื่อนพิเศษ คือเป็นนักโทษชราอายุเกิน 70 ปี และมีอาการป่วย ซึ่งในระเบียบระบุว่าสามารถพักการลงโทษได้ตามเงื่อนไข อีกทั้งคดีได้จบสิ้นแล้ว และคณะกรรมการจึงมีความเห็นสมควรให้พักการลงโทษ” นายชาญเชาวน์กล่าว
ด้านนายวสันต์ สิงคเสลิต ผู้บัญชาการเรือนจํากลางบางขวาง กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้ปล่อยตัวนายชลอ ผู้ต้องขังคดีจ้างวานฆ่าสองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ เมื่อปี 2537 ในระหว่างการทําหน้าที่สืบสวนคดีเพชรซาอุฯ เพื่อควบคุมประพฤติโดยมีบุตรสาวมารับออกจากเรือนจําบางขวางตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้ (25 ต.ค.) เนื่องจากนายชลอมีคุณสมบัติในการพักการลงโทษตรงตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ คือเป็นนักโทษชั้นเยี่ยมซึ่งจําคุกมาแล้ว 1 ใน 3 ของโทษ หรือ 18 ปี ในโทษจําคุกตลอด ชีวิตและยังเข้าเงื่อนพิเศษคือเป็นนักโทษชราอายุเกิน 70 ปี ที่มีอาการป่วยเรื่อรังจากโรคหมอนรองกระดูกทับ เส้นประสาทซึ่งตรวจพบอาการเมื่อ4-5 เดือนที่ผานมา และถูกส่งเขารักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ปรากฏว่าอาการไม่ดีขึ้นประกอบกับมีอาการอัมพฤกษร่วมด้วยจึงต้องส่งตัวไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลตํารวจ ซึ่งหลังจากการผ่าตัดและกลับเข้ามาอยู่ที่เรือนจําแล้วอาการป่วยยังไม่หายเป็นปกติโดยมีอาการแขนซ้ายยกไม่ขึ้น
“นายชลอได้รับการปลอยตัวเมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 25 ต.ค.ที่ผานมาโดยมีลูกสาวมารอรับ ต่อไปนี้หมดหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งภาระหน้าที่ต่อไปก็จะเป็นหน้าที่ของกรมคุมประพฤติ ที่จะติดตามเงื่อนไขในการพักโทษของนายชลอหากผิดเขื่อนไขก็ต้องกลับเขามารับโทษในคุก” นายวสันต์กล่าว
นายวสันต์กล่าวอีกว่า การเสนอพักโทษนั้นเป็นหน้าที่ของเรือนจําที่ต้องตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้าถึง6 เดือนว่ามีนักโทษคนใดเข้าข่ายในการพักโทษบ้าง สําหรับกรณีของนายชลอ เกิดเทศ ผู้ต้องขังคดีจ้างวานฆ่าสองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ ได้มีการเสนอเรื่องมาก่อนถึง 7-9 เดือน อีกทั้งนายชลอเองก็ป่วยหมอนรองกระดูกทับไขสันหลัง และนายชลอยังติดคุกมาแล้ว 19 ปีเศษ ซึ่งหลังจากนี้นายชลอจะต้องมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติทุกๆ 1 เดือนต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 3 ปี จนกว่าจะครบกําหนดพ้นโทษ
สําหรับนายชลอ เกิดเทศนั้น เกิดเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2481 อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย และอดีตผู้บัญชาการประจํากรมตํารวจซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจติดตามเพชรของราชวงศ์ไฟซาล ซาอุดีอาระเบีย ในคดีขโมยเครื่องเพชรราชวงศ์ไฟซาลแห่งซาอุดีอาระเบีย และตกเป็นผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่าสองแม่ลูกศรีธนะขัณฑ์ และในอดีตเคยดํารงยศ “พลตํารวจโท” แต่ต่อมาถูกถอดเสียอันเนื่องมาจากคดีดังกล่าว
