ตำรวจพหลโยธิน ลุยล็อกล้อ-ยกรถยนต์ที่จอดกีดขวางการจราจร หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็น1ใน 10 เส้นทางหลัก ที่ประกาศเป็นพื้นที่ห้ามจอดรถทุกชนิด
ที่ถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าศาลอาญา วันที่ 21 ต.คนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.พหลโยธิน ได้นำที่ล็อกล้อรถยนต์ พร้อมทั้งรถยก มาดำเนินการล็อกล้อรถยนต์ที่จอดเรียงรายริมถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่ บริเวณหน้าศาลแขวงพระนครเหนือ ศาลอุทธรณ์ ศาลแพ่ง และศาลอาญา เนื่องจากมีผู้มาติดต่อราชการกับศาลนำรถไปจอดริมถนนรัชดาภิเษกจำนวนมาก ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวเคลื่อนตัวล่าช้า บริเวณทางเข้า-ออกหน้าศาลแพ่งพบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน กค 2916 สุโขทัย จอดอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการยกรถไปไว้ที่ สน.พหลโยธิน พร้อมบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานรถทุกคันที่กระทำผิดกฎหมาย
โดย ร.ต.ต. จำเริญ จันทร์ทอง รอง สว.จร.สน.พหลโยธิน กล่าวว่า ถนนรัชดาภิเษก ถือเป็น 1 ใน10 เส้นทางสายหลักที่มีปัญหาจราจรติดขัดมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนและทางศาลอาญาได้ประกาศเตือนให้ประชาชนทั่วไปทราบตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืนนำรถมาจอดอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้วยการล็อกล้อ และออกใบสั่ง ส่วนรถที่จอดทับบริเวณเส้นขาว-แดงเจ้าหน้าที่จะยกรถไปไว้ที่ สน.พหลโยธิน ส่วนรถที่จอดกีดขวางบริเวณป้ายรถประจำทางได้ทำการล็อกล้อไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 คัน โดยออกใบสั่งรวมถึงถ่ายรูปรถทุกคันไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่บริเวณบันไดหน้าอาคารศาลอาญาเจ้าหน้าที่ศาลได้ติดตั้งประกาศให้ประชาชนทั่วไปทราบว่า “ประกาศตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประกาศบังคับใช้กฎหมายการจราจรอย่างเคร่งครัด โดยห้ามจอดรถในที่ห้ามจอดในถนน 10 สายหลัก ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค.2556 เป็นต้นไป ฉะนั้นศาลอาญาจึงประกาศให้ทราบว่าช่วงการจราจรบนถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าศาลอาญาเป็นพื้นที่ห้ามจอดยานพาหนะทุกชนิด”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ ศาลได้นัดพิจารณาคดีจำนวนมาก ทำให้มีคู่ความใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินนางมาศาล แต่เนื่องจากภายในบริเวณศาลตั้งแต่ศาลแขวงพระนครเหนือ จนถึงศาลอาญา มีรถจอดเต็มพื้นที่ ทำให้สถานที่จอดรถไม่เพียงพอ ประชาชนที่มาติดต่อราชการศาลจึงต้องนำรถยนต์มาจอดริม ถ.รัชดาภิเษก ระยะทางเกือบ 1 กม. โดยวิธีแก้ไขการถูกล็อกล้อรถยนต์ ประชาชนอาจเดินทางมาศาลด้วยรถยนต์สาธารณะ ทั้งรถตู้โดยสาร รถแท็กซี่ รถโดยสารประจำทาง
