จับแก๊งมอมยารูดทรัพย์วิศวะญี่ปุ่น ถ.ข้าวสาร

ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงจับกุม 2 ผู้ต้องหา คดีร่วมกันมอมยารูดทรัพย์เหยื่อวิศวกรหนุ่มชาวญี่ปุ่น โดยมีสาวนกต่อร่วมตั้งวงดื่มกินจาก ถ.ข้าวสาร จนไม่ได้สติ ก่อนนำไปทิ้งย่านศูนย์ศิลปาชีพปทุมธานี

วันนี้ (18 ต.ค) เวลา 14.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และ พล.ต.ต.ธวัชชัย ยิ่งเจริญสุข ผบก.สส.บช.ภ.1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นางณัฐนันท์ แก่นไม้ อายุ 50 ปี ชาว จ.ปทุมธานี และ นายกริช ลิ้มรสอนันต์ อายุ 27 ปี ชาว จ.ปทุมธานี สองแม่ลูก ผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุมอมยารูดทรัพย์ นายเคอิชิ ยามาโมโต อายุ 29 ปี วิศวกรชาวญี่ปุ่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.คเชนทร์ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ส.ค.เวลา 07.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวนพริกไทย รับแจ้งว่า นายเคอิชิ ถุกนำตัวมาทิ้งไว้ที่ศาลาที่พักผู้โดยสารริมทางหลวงสาย 347 ถ.ศูนย์ศิลปาชีพปทุมธานี ต.บ้านกระแชง อ.เมืองปทุมธานี สภาพหมดสติคล้ายคนถูกมอมยา ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่าเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 18 ส.ค.นายเคอิชิ ได้เจอกับ นางณัฐนันท์ และ น.ส.อารมณ์ หรือ นิด แก้วเรือง อายุ 25 ปี ที่ ถ.ข้าวสาร เขตพระนคร กทม.และมีการดื่มกินกันจนนายเคอิชิอยู่ในสภาพเมามายไม่ได้สติ จากนั้น นายเคอิชิ ได้ถูกพาขึ้นรถแท็กซี่จาก ถ.ข้าวสาร ก่อนตระเวนไปหลายที่ และมีการพาไปกดเงินหลายครั้ง ก่อนจะมาพบถูกทิ้งไว้ที่ศาลาที่พักผู้โดยสารดังกล่าว ตรวจสอบพบมีทรัพย์สินหายไปหลายรายการ อาทิ เงินสด กล้องถ่ายรูป และโทรศัพท์มือถือ

พล.ต.ต.คเชนทร์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังพบว่ามีการนำบัตรเครดิตของนายเคอิชิไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ตู้เอทีเอ็ม พบว่าผู้ที่กดเงินคือ นายกริช เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมนางณัฐนันท์ ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ และสามารถตามจับกุมนายกริช ในข้อหาร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบหรือรับของโจร ได้ที่บริเวณด่านชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ส่วน น.ส.อารมณ์ เจ้าหน้าที่จึงเสนอศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับแล้ว ทั้งนี้ จากการตรวจเลือดของนายเคอิชิ พบว่ามีสารเคมีที่เป็นกลุ่มเดียวกับยากล่อมประสาท หรือยานอนหลับ ปะปนอยู่ในเลือดในปริมาณที่สูงมาก จึงเชื่อว่านายเคอิชิน่าจะถูกมอมยา

จากการสอบสวน นางณัฐนันท์ ให้การปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้มีการมอมยานายเคอิชิ แต่ได้ให้ นายเคอิชิ สูบบาลากู่ ร่วมกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งทำให้นายเคอิชิอยู่ในสภาพมึนเมามากกว่าปกติ โดยวัตถุประสงค์ที่ทำก็เพื่อหลอกเหยื่อไปเล่นการพนันในบ่อนการพนัน โดยตนจะได้เงินส่วนแบ่งเมื่อเหยื่อเล่นได้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าที่ผ่านมาก่อเหตุหลอกลวงเหยื่อ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติไปเล่นการพนันมาแล้วหลายครั้ง สำหรับกรณีของ นายเคอิชิ วันเกิดเหตุได้ไปเที่ยวที่ ถ.ข้าวสาร และได้มาจีบ น.ส.อารมณ์ พวกตนจึงสบโอกาสจึงได้ชักชวน นายเคอิชิ ไปเล่นการพนัน ระหว่างนั้นได้ใช้บัตรเครดิตของนายเคอิชิไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ก่อนเอาเงินมาเก็บไว้ อย่างไรก็ตามตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากผลการตรวจเลือดของ นายเคอิชิ พบว่ามีสารเคมีในกลุ่มยานอนหลับในปริมาณค่อนข้างสูงปะปนอยุ่ในเลือด จึงเชื่อว่า นายเคอิชิ น่าจะถูกมอมยาเพื่อชิงทรัพย์ ซึ่งที่ผ่านมาแก๊งนี้ได้ก่อเหตุลักษณะนี้ในย่านถ.ข้าวสาร มาแล้วหลายครั้ง