ป.ป.ส.และตำรวจสน.บางพลี ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 2 ผู้ต้องหา คดีลักลอบขนยาบ้า จำนวน 100,000เม็ด เบื้องต้นทราบว่ามีการส่งยาเสพติดจากภาคเหนือมากรุงเทพฯ มีหลายวิธี แต่วิธีที่จะใช้ส่วนมากคือการส่งผ่านบริษัทขนส่งต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (10 ต.ค.) ที่บริษัท Kerry-Express เลขที่ 41/40 ม.6 ซ.พูลเจริญ ถนน บางนา-ตราด กม.ที่ 16.5 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายพิสุทธิ์ ภู่เงิน ผอ.ปปส.ภาค 1 นายสงวนศักดิ์ ศรีวัฒนพงศ์ ผอ.ส่วนประมวลผลวิเคราะห์ข้อมูลเฝ้าระวัง พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี นายสุธีร์ คนึงเหตุ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฎิบัติการ บ.เคอรี่ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.และตำรวจภูธรบางพลี ร่วมกัน แถลงผลการจับกุม นายวรเวช สีแถะ อายุ 27 ปี และนางเนาวรัตน์ ไกรสร อายุ 39 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 100,000 เม็ด ที่ลักลอบขนส่งมาจากภาคเหนือ ผ่านทางบริษัท Kerry-Express ก่อนนำมากระจายต่อในพื้นที่กรุงเทพฯ
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง2 คนในครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรจภูธรภาค 5ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนส่งยาบ้าผ่าน บริษัท NTC รับส่งพัสดุด่วน จำกัด ที่ จ.เชียงราย มายังสาขาย่อยนครสวรรค์ จึงขยายผลเข้าจับกุม นางเนาวรัตน์ ไกรสร อายุ 39 ปี พร้อมของกลายาบ้า 20,000 เม็ด ได้ที่บ้านพักใน จ.นครสวรรค์ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างจากนายสุทน ธีระนันท์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านในราคา 5,000 บาทให้มารับสินค้าแทน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ยังสืบทราบว่า ได้มียาบ้าอีกล็อตถูกนำส่งมายังกรุงเทพฯผ่านบริษัท Kerry-Express โดยส่งไปยังผู้รับชื่ออิทธิพล นาหอม เจ้าหน้าที่จึงสอบสวนขยายผลจนกระทั่งสามารถจับกุม นายวรเวช สีแถะ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นชาวจีนฮ่อพร้อมของกลางยาบ้า 80,000 เม็ด ได้ที่อาคาร B2 เจโมทาวน์ กทม.โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ถูกว่าจ้างจากกลุ่มนักค้ายารายย่อยในชุมชน กทม.ในราคา 50,000บาท ให้เป็นผู้รับของ เนื่องจากเป็นลูกจ้างรายวันบริษัทเจียระไนเพชร ในย่านที่พักที่ถูกจับกุมแต่รายได้ไม่พอใช้ จึงรับจ้างดำเนินการดังกล่าว ส่วนชื่ออิทธิพล นาหอม เป็นชื่อปลอมเพื่อหลบหนีการจับกุม
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในความคราอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนสืบสวนขยายผลไปจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องและขยายผลยึดและอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดต่อไป
เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า ยาบ้าที่พบเป็นเครือข่ายเดียวกับกลุ่มนักค้ายาบ้าที่ถูก ป.ป.ส.จับได้ที่บริษัท นิ่มซี่เส็ง ที่ปทุมธานี เมื่อปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้พบว่าวิธีการขนส่งยาเสพติดจากภาคเหนือลงมาสู่กรุงเทพฯมีหลากหลายวิธีที่เอเยนต์เลือกใช้ ซึ่งปัจจุบันมักนำส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชนต่างๆที่เกิดขึ้น เนื่องจากหลบเลี่ยงการตรวจจับ ดังนั้นเพื่อเป็นการปิดช่องว่างให้เอเยนต์ยาเสพติดใช้ระบบขนส่ง (โลจิสติกส์) ของบริษัทขนส่งลักลอบนำยาบ้าบรรจุในพัสดุภัณฑ์ สำนักงาน ป.ป.ส.จึงเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบ ดูแล และเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยขอความร่วมมือให้ทุกบริษัทดำเนินการใช้เครื่องมือสแกน (Scan) กล่อมพัสดุภัณฑ์ โดยเมื่อพบกล่องต้องสงสัย ทางสำนักงาน ป.ป.ส.จะจัดส่งสายตรวจเข้าตรวจสอบทันที แต่ในระยะยาว ทางบริษัทขนส่งต้องจัดหาเครื่องมือสแกน เพื่อใช้ในการตรวจสอบพัสดูภัณฑ์ประจำบริษัทของตนเอง โดยหลังจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส.จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อควบคุมการปฏิบัติของบริษัทขนส่งต่อไป
