รวบเนปาลเครือข่ายลีซอ ค้าเฮโรอีนส่งมาเลย์ฯ

ป.ป.ส.แถลงผลจับกุม 6 ผู้ต้องค้ายาเสพติดชาวเขาเผ่าลีซอ ยึดของกลางเป็นเฮโรอีนชนิดแท่งน้ำหนัก 37 กิโลกรัม จับกุมได้ที่สนามบินเชียงใหม่ขณะลำเลียงส่งไปยังประเทศมาเลเซีย

วันนี้ (5 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ดินแดง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร และเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ปส. แถลงผลการจับกุมนักค้ายาเสพติดกลุ่มชาวเขาเผ่าลีซอ ประกอบด้วยผู้ต้องหา 6 ราย ได้แก่ นายอนุวัฒน์ สินย่าง อายุ 34 ปี, นายธวัชชัย สินย่าง อายุ 32 ปี, น.ส.อะเรมิ ศิริ อายุ 23 ปี, นายบุญช่วย แซ่ลี้ อายุ 46 ปี, นายกิตติพงษ์ เลาโหม๊ะ อายุ 47 ปี ทั้งหมดชาวเขาเผ่าลีซอ และนายโจน กูรุง อายุ 22 ปี สัญชาติเนปาล พร้อมของกลาง เฮโรอีนอัดแท่งจำนวน 34 กิโลกรัม กระเป๋าเดินทาง 3 ใบ รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ผพ-8202 เชียงใหม่ รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน บว-4574 เชียงใหม่ และโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง จับกุมได้บริเวณสนามบินเชียงใหม่ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อเนื่องโรงแรม สไปร์เฮ้าส์ ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และต่อเนื่องบ้านเลขที่ 181 ม.9 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มลีซอทำการลำเลียงยาเสพติดไปส่งให้ผู้รับในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยใช้รถยนต์กระบะจำนวน 2 คัน ในการลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้ ชุดสืบสวนจึงได้ติดตามรถยนต์ดังกล่าวพบว่า รถยนต์กระบะของกลุ่มผู้ต้องหาเดินทางไปที่โรงแรมสไปร์เฮ้าส์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีการนำสิ่งของต้องสงสัยออกจากรถยนต์ขึ้นไปบนห้องพัก

ต่อมาวันที่ 1 ส.ค. 56 เจ้าหน้าที่พบนายโจน กูรุง ชาวเนปาล ขณะนำกระเป๋าเดินทางออกมาจากห้องพักของโรงแรม เพื่อเดินทางไปยังสนามบินเชียงใหม่ ชุดสืบสวนได้ติดตามไปแล้วทำการเรียกตรวจค้นพบยาเสพติดเฮโรอีนซุกซ่อนมาในกระเป๋าเดินทางจำนวน 2 ใบ โดยการห่อกระดาษคาร์บอนสีน้ำเงินไว้เป็นแผ่นกระดาษอีกชั้นเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่เวลาโหลดกระเป๋าจะทำให้ไม่สามารถมองเห็นวัตถุด้านในได้ โดยนายโจน กูรุง ได้รับว่ารับยาเสพติดมาจากนายอนุวัฒน์ ชาวเขาเผ่าลีซอ เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปจับกุมตัวนายอนุวัฒน์ที่โรงแรมสไปร์เฮ้าส์ และขยายผลตรวจค้นบ้านเลขที่ 181 ม.9 ต.อินทขิล อ.แม่ตง จ.เชียงใหม่ พบนายธวัชชัยและนางสาวอะเรมิ พร้อมของกลางเฮโรอีนอีก 28 กิโลกรัม พร้อมขยายผลจับกุนายบุญช่วยและนายกิตติพงษ์มีหน้าที่ขับรถดูลาดเลาในการลำเลียงยาเสพติด จึงยึดของกลางทั้งหมดพร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวน

พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า กลุ่มชาวเขาเผ่าลีซอดังกล่าวนี้จะทำการลำเลียงจัดส่งไปยังประเทศมาเลเซีย เมื่อหลุดลอดไปได้ถึงประเทศเพื่อนบ้านจะมีการส่งต่อไปยังประเทศไต้หวัน ออสเตรเลีย และยุโรปต่อไป ซึ่งจะยิ่งมีราคาสูงมากขึ้น ถ้าในบ้านเราจะอยู่ที่ 750 กรัมต่อราคา 8 แสนบาท ถ้าออกนอกประเทศราคาเพิ่มเท่าตัว โดยผู้ต้องหาชาวเนปาลมีหน้าที่มารับเฮโรอีนจากชาวเขาเผ่าลีซอ ก่อนจะนำบินออกนอกประเทศ ซึ่งกระทำมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้กำลังจะลำเลียงมาพักไว้ยังพื้นที่ กทม. ก่อนจะส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย ได้ค่าจ้างจำนวนหลักแสนบาท แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

ทั้งนี้ ทาง ป.ป.ส.ได้ประสานความร่วมมือกับประเทศมาเลเซียเพื่อขยายผลเครือข่ายยาเสพติดไม่ให้มีการส่งออกไปถึงปลายทาง ต้องมีการหารือร่วมกันเพื่อสกัดกั้นต้นทางการลำเลียงออกนอกประเทศ เพราะทางประเทศมาเลเซียมีความกังวลเรื่องยาเสพติดจะเข้ามาถึงในประเทศเช่นกัน ซึ่งแนวทางการสกัดกั้นทางเจ้าหน้าที่ บช.ปส.จะต้องทำการหาโปรไฟล์ของกลุ่มชนเผ่าต่างๆ ทางตอนเหนือตั้งแต่ต้นตระกูล ทรัพย์สิน รวมถึงเส้นทางการเงิน เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการปราบปรามสกัดกั้นเส้นทางนำเข้ายาเสพติดให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป

อีกคดี โดย พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.5 ทำการจับกุม นายพรชัย สินเจริญรุ่งโรจน์ พร้อมของกลางยาบ้า 500,000 เม็ด ซุกซ่อนในช่องลับบนหลังคารถกระบะคล้ายรถรับส่งนักเรียน หมายเลขทะเบียน ฮม 3094 กรุงเทพมหานคร สืบเนื่องจาก นายพรชัย ได้รับการว่าจ้างจากนายพี ชาวจีนฮ่อ ว่าให้นำยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.ปทุมธานี จนถูกจับกุมได้ที่ด่านตรวจแม่พริก จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 56 แต่ขณะเข้าจับกุมรถยนต์ของ นายพี ซึ่งนำทางมาหลบหนีไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าภายในรถมียาบ้าอีก 500,000 เม็ด จากการตรวจสอบไลเซนเพส กล้องประจำด่านแม่พริก ทราบว่ารถคันดังกล่าวยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน ฎณ 6949 กรุงเทพฯ ซึ่งมี บริษัท โซวิค จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลจับกุม