ศาลฎีกายังไม่ได้ กกต.คนที่ 2 ตาม “ศุภชัย สมเจริญ” เหตุผู้พิพากษาตัวเก็งทั้ง 4 คน ได้คะแนนโหวตในรอบที่ 2 ไม่ถึงเกณฑ์กึ่งหนึ่งของที่ประชุม ด้าน “เปรมใจ กิติคุณไพโรจน์” ผู้พิพากษาอาวุโสศาลอุทธรณ์ ระบุ ไม่ท้อ ขอลงสมัครอีกรอบ
ที่ศาลฎีกา สนามหลวง วันนี้ (9 ต.ค.) นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานที่ประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกา เพื่อพิจารณาสรรหาบุคคลที่สมควรถูกเสนอชื่อให้เป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เหลืออีก 1 คน หลังจากเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ลงคะแนนเลือก นายศุภชัย สมเจริญ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เป็นบุคคลที่สมควรถูกเสนอชื่อเป็น กกต.ก่อนให้วุฒิสภาพิจารณาเห็นชอบตามกฎหมาย ได้แล้วจำนวน 1 คน
โดยการประชุมใหญ่วันนี้ มีผู้พิพากษาในศาลฎีกาเข้าประชุมทั้งสิ้น 149 คน ขณะที่การลงคะแนนสรรหาครั้งนี้ มีชื่อผู้ร่วมสรรหาทั้งสิ้น 5 ราย ประกอบด้วย สายตุลาการ 4 คน ได้แก่ นางเปรมใจ กิติคุณไพโรจน์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ , นายพิชิต คำแฝง อดีตรองประธานศาลฎีกา, ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล อดีตรองประธานศาลฎีกา และนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ ขณะมีบุคคลภายนอก 1คน คือ นายพิมล พูพิพิธ อดีตคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วน นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม อดีตประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฏีกา ที่ได้รับคะแนนสูงสุด แต่เสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งตามเกณฑ์ในการเลือกครั้งแรกได้ขอถอนตัว
ทั้งนี้การลงคะแนนนั้น จะใช้วิธีการลงคะแนนลับโดยให้ผู้พิพากษาที่เข้าประชุมแต่ละคนมีสิทธิลงคะแนนเลือกบุคคลที่เสนอชื่อร่วมสรรหาได้ในรอบแรกไม่เกิน 4 คน ซึ่งปรากฎว่า ผลการคัดเลือกในรอบนี้ผู้ที่มีคะแนนสูงสุด จำนวน 4 คน ได้แก่ นางเปรมใจ กิติคุณไพโรจน์, นายพิชิต คำแฝง, ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล และ นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์
ต่อมาที่ประชุมใหญ่จึงได้พิจารณาลงคะแนนเลือกรอบที่ 2 เพื่อคัดเลือกจากจำนวน 4 คน ให้เหลือเพียง 1 คน โดยยึดหลักเกณฑ์ว่าบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ จะต้องได้คะแนนเสียงถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนผู้พิพากษาที่เข้าประชุมนั้น อย่างไรก็ตามปรากฏว่าในการลงคะแนนเลือกรอบที่ 2 ผู้ที่ถูกเสนอชื่อทั้ง 4 คนไม่มีใครได้รับคะแนนถึงกึ่งหนึ่งตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ส่งผลทำให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ยังไม่สามารถคัดเลือกบุคคลที่สมควรถูกเสนอชื่อเป็น กกต.คนที่ 2 ได้ภายในวันนี้ และจะมีการกำหนดนัดประชุมใหญ่ศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสรรหาบุคคลเสนอเป็น กกต.อีกครั้ง โดยยังไม่ได้กำหนดว่าจะนัดประชุมกันอีกครั้งเมื่อใด
ด้าน นางเปรมใจ กิติคุณไพโรจน์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ 1 ใน 4 ผู้ร่วมสรรหาเป็น กกต.ถึง 2 ครั้ง เปิดเผยว่า ในการลงคะแนนเลือกวันนี้ ตนก็ยังได้รับคะแนนเสียงไม่ถึงเกณฑ์กึ่งหนึ่ง แต่ยังไม่ท้อและตั้งใจจะลงสมัครสรรหาอีกในครั้งที่ 3 เพราะคิดว่าเรามีความตั้งใจที่จะทำงาน ที่ผ่านมาการเป็นผู้พิพากษาก็ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เคยกระทำเรื่องอะไรที่เป็นการเสื่อมเสีย เพียงแต่การลงสมัครสรรหาไม่เหมือนการสอบที่แค่ว่าอ่านหนังสือแล้วจะสอบผ่าน การสรรหาเป็นเรื่องของบุคคลอื่นเห็นว่าเราเหมาะสมจึงเลือกเรา ดังนั้นเมื่อได้ตั้งใจแล้ว ก็จะขอเสนอตัวเพื่อคัดเลือกเป็น กกต.ในครั้งต่อไป