สน.พระอาทิตย์/สามยอด
น้ำยังไม่ทันลดตอก็ผุดก็โผล่เสียแล้ว การแต่งตั้ง “นายพลสีกากี”ระดับ รองผบช.-ผบก.ประจำปี 2556 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่27 ก.ย.นี้ หรืออีก 10 วันข้างหน้า
เพราะแค่เพียงรายชื่อแต่งตั้งแพลมออกมาเป็นออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อย ก็เริ่มส่งสัญญาณแห่งความวุ่นวาย สะท้อนภาพตัวตน “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ในยุคที่มี พล.ต.อ.อดุลย์แสงสิงแก้ว กุมบังเหียนผู้นำสีกากี
ภาพกลุ่มชาวเมืองดอกคำใต้ จ.พะเยา กว่า 600 คนทั้งเจ้าหน้าที่เทศมนตรี กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านยกขบวนมาชุมนุมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1เมื่อช่วงต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.คัดค้านการแต่งตั้ง พ.ต.อ.ภาณุบูรณศิริ รองผบก.สส.ภ.3 เป็น ผบก.ภ.จ.พะเยารวมทั้งยกขบวนทั้งหมดไปรัฐสภา ยื่นหนังสือให้กรรมาธิการการตำรวจ สภาผุ้แทนราษฎร์พิจารณาด้วยเช่นกัน
เหตุผลที่น่าสนใจในการออกมาคัดค้านการแต่งตั้งพ.ต.อ.ภาณุ ของกลุ่มชาวเมืองดอกคำใต้จ.พะเยา นำโดย จิรเดช ศรีราช นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองดอกคำใต้อ้างคือหากมีการแต่งตั้งพ.ต.อ.ภาณุมาดำรงตำแหน่ง ผู้การฯพะเยา
“ชาวบ้านไม่มั่นใจกระบวนการยุติธรรม”!!!
“จิรเดช” ชี้แจงเหตุผลที่ชาวบ้านคิดเข่นนั้นว่าพ.ต.อ.ภาณุมีสายสัมพันธ์ทางเครือญาติ และมีสายสัมพันธ์กับ “วรวิทย์ บูรณศิริ”นายก อบจ.พะเยา ซึ่งถูก ป.ป.ช.-ตำรวจกองปราบปรามและกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ตรวจสอบถึงการทำงานที่ไม่โปรงใส และทุจริตในอบจ.พะเยาโดยเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างกระบวนการสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหมายเลขคดี 5480601682 และหนังสือเลขรับที่ 34/090 ของ ป.ป.ช.
“นอกจากชาวบ้านที่มากันแล้ว ยังมีสำเนาเอกสารบัตรประชาชนกว่า 5,000 คน ที่มีความเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะย้ายพ.ต.อ.ภาณุมาเป็น ผบก.จว.พะเยา เนื่องจากคดีของนายวรวิทย์อยู่ระหว่างกระบวนการสืบสวนสอบสวน เกรงว่า อาจจะทำให้ผลการพิจารณาคดีเบี่ยงเบนและไม่ยุติธรรมต่อประชาชนชาว จ.พะเยา"
ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้วการไม่มั่นใจกระบวนการยุติธรรมของชาวบ้าน ถึงขั้นยกขบวนมาคัดค้านการแต่งตั้งคนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ“พล.ต.อ.อดุลย์”ในฐานะผู้นำตำรวจ ต้องนำมาพิจารณา ทวนทวนให้ละเอียดรอบครอบ
เพราะต้องไม่ลืมว่า“ตำรวจ”คือ ต้นธารกระบวนการยุติธรรมของไทย และเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายบ้านหากชาวบ้านไม่ศรัทธา ไม่เชื่อใจ ไม่ไว้ใจ เกิดความหวาดระแวงบ้านเมืองก็อยู่กันลำบาก
เฉกเช่นเดียวกับปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดปัญหาไฟใต้อยู่ในขณะนี้ชนวนปัญหาที่สำคัญก็เกิดจากความหวาดระแวงเจ้าหน้าที่รัฐของชาวบ้านเพราะต่างถูกกระทำในด้านลบ จากเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วย บางคนเมื่อมีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เข้ามาปลุกกระแสสร้างความเข้าใจที่ผิดๆการปลุกปั่นต่างๆก็ได้ผล ปัญหาก็เยเกิดขึ้นจนความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ลุกลาม ยืดเยื้อกันมาเป็น 10 ปี ก็ยังไม่สามารถคลี่คลายลงได้
แม้พล.ต.อ.อดุลย์จะไม่แสดงท่าทีอะไรต่อการคัดค้านการแต่งตั้งพ.ต.อ.ภาณุ ตามที่กลุ่มชาวเมืองดอกคำใต้ออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้เพราะการแต่งตังโยกย้ายตำรวจระดับ รองผบช.-ผบก.ประจำปี 2556 ยังไม่เกิดขึ้น พ.ต.อ.ภาณุ ยังไม่ได้เป็น ผู้การฯพะเยาข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการคาดเดาตามการวิเคราะห์ของสื่อเท่านั้น
แต่ไม่มีมูลหมาไม่ขี้และการรวมตัวคัดค้านครั้งนี้ก็ไม่น่าจะมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนอย่างที่ตำรวจชอบมองเวลามีการชุมนุมต่างๆที่มักจะโยนเป็นเรื่องการเมืองเสียหมด อย่างกรณีกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราอ.ควนหงส์ จ.นครศรีธรรมราช ออกมาชุมนุมช่วงแรก รายงานจากตำรวจรีบประเมินทันทีว่าเป็นกลุ่มหน้ากากขาวเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ไม่ใช่เกษตรกรชาวสวนยางพาราตังจริง จนเหตุการณ์บานปลายต้องมีการปิดถนน ปิดทางรถไฟ เรียกร้องกดดันให้รัฐบาลหันมาให้ความสนใจ
และที่สำคัญการคัดค้านการตั้งพ.ต.อ.ภาณุ ไม่น่าจะเป็นเรื่องการเมืองแน่ เพราะต้องยอมรับว่าในพื้นที่จ.พะเยาถือเป็นฐานเสียงของคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็น กำนัน ผู้ใหญ่ บ้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
หากไม่ใช่คนเสื้อแดงก็ต้องได้รับการสนับสนุนจากคนเสื้อแดง ไม่เช่นนั้นอย่าหวังจะผงาดมีตำแหน่งใหญ่โตเช่นเดียวกับคนที่จะไปเป็น “ผบก.ภ.จ.พะยา” ก็ต้องได้รับไฟเขียวจากคนต่างแดนผู้นำคนเสื้อแดงตัวจริงต้องยินยอมไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีชื่อขึ้นมาติดยศนายพล จึงเป็นเรื่อง
”พวกเดียวกัน”
กระนั้นแม้จะเป็นเพียงแค่กระแสข่าวยังไม่ใช่การแต่งตั้งจริงแต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงองค์กรตำรวจถูกแทรกแซงทางการเมืองอย่างชัดเจนโดยเฉพาะการแต่งตั้งตำรวจระดับผู้การฯเข้าไปทำงานในพื้นที่ไม่ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบถ้วน แต่พิจารณาเพียงแค่ “ตั๋ว” มิเช่นนั้นคงไม่เกิดเหตุการณ์ปรากฏชื่อญาติของผู้ที่ถูกกกล่าวหาเรื่องการทุจริตและอยู่รัหว่างการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ ได้เข้ามามีอำนาจในพื้นที่
แม้จะไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าการแต่งตั้งเครือญาติของผู้ถูกกล่าวหามาดำรงตำแหน่ง จะเข้ามาก้าวก่ายหรือยุ่งเกี่ยวต่อรูปคดีหรือไม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเหมาะสมหากใครทราบเรื่องก็คงจะไม่สบายใจ
ฉะนั้นแม้จะไม่รู้ชัดว่าพล.ต.อ.อดุลย์จะตั้ง พ.ต.อ.ภาณุ ไปเป็น ผบก.ภ.จ.พะเยา หรือไม่ แต่สิ่งที่พล.ต.อ.อดุลย์ต้องกลับไปทบทวนก่อนทำบัญชีราชื่อเสนอให้ ก.ตร.พิจารณาในวันที่ 27 ก.ย.ก็ต้องย้อนกลับไปตรวจสอบทั้งหมดว่ามีใครที่เสนอแต่งตั้งครั้งนี้มีเรื่องที่สุ่มเสี่ยงในทางไม่ได้อีกหรือไม่
มิฉะนั้นแล้วอาจเกิดกรณีซ้ำรอยชาวบ้านยกขบวนมาชุมนุมคัดค้านการแต่งตั้งที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจานการบริหารงานที่ล้มเหลว ไร้หลักการคำนึงถึงเพียงค่าของคนอยู่ที่คนของต่างแดน ไม่ใช่คนดี มีฝีมือเหมือนอย่างที่ชาวพะเยาออกมาเคลื่อนไหว
เพราะถ้า“ผบ.อดุลย์”ไม่แข็ง ไม่มีจุดยืนในการแต่งตั้งโยกย้าย อาจต้องปวดหัวอีกครั้งเพราะคนดังแห่งสระแก้วก็เริ่มควันออกหู เพราะมีรายการแย่งชามข้าวกันมาพักใหญ่ สุดท้ายเสร็จคนของดูไบ โดยที่ “อู๋”ได้แต่แบ๊ะๆ