ตร.รวบสาวใหญ่หลังฝ่ายสืบสวน สตม.สืบทราบว่าผู้ต้องหาร่วมกระทำความผิดในการรับทำแผ่นปะวีซ่าปลอมให้กับชาวต่างชาติ เผยตามจับผู้ใช้วีซ่าปลอมได้แล้วกว่า 20 ราย
วันนี้ (11 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ต.ณัฐธร เพราะสุนทร รอง ผบช.สตม.พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.สตม.แถลงผลการจับกุม นางปิยะมาตร หรือ มาม่า บรรดาศักดิ์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหาปลอมหนังสือเดินทางและปลอมแผ่นปะลงตราอันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ หลังฝ่ายสืบสวน สตม.สืบทราบว่าผู้ต้องหาร่วมกระทำความผิดในการรับทำแผ่นปะวีซ่าปลอมให้กับชาวต่างชาติ โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 48/229 ถ.เสรีไทย แขวงคลองกลุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.
พล.ต.ต.ณัฐธร กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา นายซามูเอล นชา เอกวาเล่ ชาวแคเมอรูน ได้ยื่นหนังสือเดินทางที่มีแผ่นปะลงตราวีซ่าที่ออกโดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ทั้งที่ไม่เคยเดินทางไปประเทศนี้มาก่อน โดย นายซามูเอล แจ้งว่าได้ติดต่อกับหญิงไทย ชื่อ มาม่า ที่ กทม.เป็นผู้ดำเนินการทำวีซ่า ต่อมาวันที่ 9 ส.ค.กรมการกงสุล มีหนังสือแจ้งมายัง สตม.ว่า ตรวจพบว่าแผ่นปะวีซ่าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สูญหายไป จำนวน 300 แผ่น หากผู้ใดใช้แผ่นปะวีซ่าดังกล่าวถือเป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร ต่อมา บก.สส.สตม.ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าหญิงไทยที่ชื่อมาม่า คือ นางปิยะมาตร จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาล ก่อนเข้าทำการจับกุมตัวไว้ได้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากนายคูม่า ซึ่งเป็นชาวอินเดียที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2555 ขณะที่ตนเองไปเดินเล่นกับลูกสาวซึ่งเป็นลูกครึ่ง และตนเองมีสามีเป็นชาวต่างชาติ นายคูม่าได้เข้ามาสอบถามและชักชวนว่าสามารถทำวีซ่าเข้าประเทศไทยให้กับชาวต่างชาติ ได้ในเวลารวดเร็ว ตนก็ตกลงที่จะให้นายคูม่าดำเนินการให้ หลังจากนั้นมีคนรู้ก็มีการติดต่อให้ตนช่วยประสานให้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นแผ่นปะวีซ่าปลอม เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาสามารถใช้เดินทางเข้ามาในประเทศได้ตามปกติ ทั้งนี้ ตนมีหน้าที่เพียงติดต่อนำส่งเอกสารให้กับนายคูม่า ที่ผ่านมารับทำมา 3 เล่มได้ค่าจ้างเล่มละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตนได้ส่วนแบ่งเพียง 100 ดอลลาร์สหรัฐฯเท่านั้น
พล.ต.ต.ณัฐธร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ สตม.สามารถติดตามจับกุมบุุคคลที่ใช้แผ่นปะวีซ่าปลอมได้แล้ว 20 ราย โดยใน กทม.17 ราย ต่างจังหวัด 3 ราย ซึ่งถูกดำเนินคดีฐานใช้ดวงตราวีซ่าปลอม และถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกันกับกระทรวงประเทศในการจับกุมเครือข่ายที่เหลือต่อไป