xs
xsm
sm
md
lg

สั่งฟ้อง “ไอ้บอล” 8 ข้อหา ปมปริศนา “ฆ่าชิงทรัพย์เอกยุทธ” จริงหรือ?!

เผยแพร่:

คดีฆาตกรรม นายเอกยุทธ อัญชันบุตร อดีตนักธุรกิจชื่อดัง กำลังเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาล ล่าสุด วันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เปิดเผยว่า นายศุภชัย คงประพันธ์ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ บอล ผู้ต้องหาร่วมกันอุ้มฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร และผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามความเห็นของพนักงานสอบสวน

โดยสั่งฟ้อง นายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง, นายสุทธิพงษ์ หรือ เบิ้ม พิมพิสาร, นายชวลิต หรือเชาว์ วุ่นชุม และนายทิวากร หรือ ทิว เกื้อทอง ผู้ต้องหาที่ 1-4 ฐาน 1.ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ 3.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด และให้ทำเอกสารสิทธิโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยใช้กำลังประทุษร้ายและมีอาวุธจนผู้อื่นถูกข่มขืนใจ ต้องกระทำการ ไม่การทำการ จำยอมต่อสิ่งนั้น และทำลายเอกสารสิทธิ 4.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นนั้นถึงแก่ความตาย 5.ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย

6.ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร 7.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนอนุญาตให้ผู้อื่นมีและใช้ไว้ในความครอบครองโดยไมได้รับอนุญาต และ 8.ร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแห่งพฤติการณ์ที่ต้องติดตัวไปในเมือง และไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 199, 289 (4)(7), 309, 310, 340, 340ตรี, 371, 83, 91 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2556 มาตรา 4 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พ.ย. 2541 ข้อ 14, 15 พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8ทวิ, 72, 72ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ต.ค. พ.ศ. 2519 ข้อ 3, 6, 7 และให้จำเลยที่ 1-4 ร่วมกันคืนหรือชดใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนจำนวน 1,941,970 บาทแก่ผู้เสียหาย

นอกจากนี้อัยการยังได้สั่งฟ้อง จ.ต.อ.อิทธิพล เพ็งด้วง และนางจิตอำไพ เพ็งด้วง บิดา-มารดานายสันติภาพ จำเลยที่ 5-6 ฐานร่วมกันรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคสอง

“อัยการได้สั่งฟ้องตามข้อเท็จจริงในสำนวน ตามที่พนักงานสอบสวนส่งให้อัยการพิจารณา จากพฤติการณ์และคำรับสารภาพของผู้ต้องหา ประกอบกับพยานแวดล้อมอื่นที่เชื่อมโยงกันปรากฏเพียงเท่านี้ ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังทั้งสิ้น ส่วนที่ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ อดีตทนายความนายเอกยุทธได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีผู้จ้างวานอยู่เบื้องหลังนั้น ไม่มีปรากฏอยู่ในสำนวนที่พนักงานสอบสวนส่งมา ในสำนวนจึงมีแต่ประเด็นปล้นฆ่าชิงทรัพย์เท่านั้น หากต่อไปในอนาคตพนักงานสอบสวนมีหลักฐานใหม่ ที่จะฟ้องจำเลยในฐานความผิดอื่นด้วย ก็สามารถนำมาพิจารณาฟ้องเป็นสำนวนใหม่ได้ ส่วนหนังสือของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ที่เป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับสภาพศพว่า ไม่ใช่การประสงค์ต่อทรัพย์ และได้ยื่นถึง นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุดก่อนหน้านี้ จากการพิจารณาเห็นว่าเป็นเพียงหลักฐานนอกสำนวนไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคดี แต่ทางอัยการจะนำหนังสือของคณะกรรมการสิทธิฯ ส่งไปให้พนักงานสอบสวน เพื่อพิจารณาดูว่ามีหลักฐานอะไรเพิ่มเติมเพื่อสั่งฟ้องในคดีอื่นอีกหรือไม่” อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ระบุ

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญาเปิดเผยว่า ส่วนที่นายสันติภาพจะกลับคำให้การหรือไม่นั้น เป็นสิทธิ์ที่จำเลยที่สามารถจะให้การอย่างใดก็ได้ ซึ่งศาลจะพิจารณาจากพยานหลักฐานในสำนวนเป็นหลัก ส่วนฮาร์ดดิสก์ที่สูญหายไปนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมในคดีใหญ่ ซึ่งคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนามีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตและคดีปล้นทรัพย์ก็มีโทษจำคุกสูง

ทั้งนี้ อัยการได้เตรียมพยานบุคคลนำสืบจำนวน 70 ปาก ประกอบกับพยานเอกสารและภาพถ่ายต่างๆ ร่วมด้วย ซึ่งจะสามารถลงโทษจำเลยทั้งหมดได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล โดยนายสันติภาพให้การรับสารภาพในทุกข้อกล่าวหา ส่วนจำเลยอื่นๆ ก็รับสารภาพและให้การภาคเสธบ้าง อย่างไรก็ตาม ทางอัยการได้ทำหนังสือแจ้งไปทางญาติผู้เสียหายแล้ว เพื่อให้รับทราบหากต้องการเข้าเป็นโจทก์ร่วมในการเรียกร้องค่าเสียหาย และทางอัยการได้ค้านประกันตัวจำเลยที่ 1-4 ด้วย

อย่างไรก็ตามได้มีการนัดสอบคำให้การนัดแรกทันทีในวันที่ 5 ก.ย.นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ “บอล” ได้อ้างว่ายังไม่มีทนายความได้ขอเลื่อนสอบคำให้การไปก่อน ซึ่งศาลอาญาได้พิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยทั้งหมดยังไม่มีทนายความจึงให้เลื่อนสอบคำให้การจำเลยทั้งหมดที่เกี่ยวข้องไปวันที่ 28 ต.ค. เวลา 13.30 น.

ด้าน นางสาวอัจฉรา แสงขาว ผู้ช่วยทนายความ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ อดีตทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร เปิดเผยกับ ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ ว่าเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมที่มองออกตั้งแต่ต้นแล้วว่าอัยการจะสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนส่งขึ้นไปในคดีฆ่าชิงทรัพย์นั้น ซึ่งก็คงว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรมที่ตำรวจตั้งใจชูธงมาตั้งแต่ต้นให้มาในแนวทางนี้ กระนั้นก็ดีทนายสุวัตรได้พยายามออกมาเปิดเผยแล้วว่าน่าจะมีอะไรลึกๆ กว่านี้

“บอลเป็นคนพัทลุงบ้านเดียวกับดิฉัน เขาจึงมีความไว้วางใจดิฉันค่อนข้างมาก ก็มีการให้ข้อมูลเชิงลึกมาค่อนข้างมากทีเดียว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย เพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยของบอลเอง และมีผลต่อรูปคดี คนตกอยู่ในสภาพนี้ที่ต้องถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำช่วงถูกดำเนินคดี ข้างในนั้นอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ตอนนี้ตำรวจจ้องไม่กะพริบว่าเราเข้าไปพูดคุยกับบอลเรื่องอะไร แต่ก็เป็นการดีที่บอลออกมาเปิดเผยประเด็นออกมามันก็ช่วยให้สังคมช่วยกันจับจ้องติดตามความเป็นอยู่ของเขาไปในตัวหากเกิดอะไรขึ้นกับเขา”

“เรื่องนี้เป็นไปตามที่คุณสุวัตรได้ออกมาแถลงข่าวไปแล้วว่ามีการจ้างวานฆ่านายเอกยุทธ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน มันไม่ใช่เรื่องการฆ่าชิงทรัพย์ธรรมดา ตำรวจมีอำนาจหน้าที่มากกว่าพวกเราที่สามารถจะไปสืบสวนข้อเท็จจริงได้มาก แต่เขาไม่ทำ กลับออกมาแถลงยืนยันว่า นายสมชาย จิตปรีดากร ไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายสันติภาพ ถามหน่อยว่าบอลหรือเราเองจะไปเอาข้อมูลพวกนี้มาจากไหนว่า นายสมชาย มีคอนโดมิเนียมอยู่ที่ใด บริษัทตั้งอยู่ที่ไหน ตำรวจเองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำไป ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่อยู่ๆ เราจะเอาข้อมูลพวกนี้มาพูดได้หากบอลไม่ได้ให้ข้อมูลมา ซึ่งตัวบอลก็ยืนยันว่ารู้จักกับนายสมชายมาร่วมปีก่อนจะมาอยู่กับนายเอกยุทธ บอลเป็นคนรูปร่างไม่ใหญ่เท่าไหร่ คุณเอกยุทธเขาเป็นคนที่รูปร่างใหญ่ มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะทำกันเพียงลำพัง 2 คน ขนาดคดีคาราโอเกะซิตี้ บอลยังสู้ผู้จัดการร้านไม่ได้เลย ถูกต่อยซะปากแตก ประเด็นที่ดิฉันตั้งข้อสังเกตคือมันน่าจะเป็นฝีมือมืออาชีพมากกว่า” นางสาวอัจฉรา แสงขาว แจกแจงประเด็นที่เห็นต่าง

และนี่เป็นแค่ช่วงเริ่มต้นของกระบวนการยุติธรรมที่กำลังขับเคลื่อนคดีการฆาตกรรม นายเอกยุทธ อัญชันบุตร อดีตนักธุรกิจชื่อดัง เจ้าของวลี “ว.5 โฟร์ซีซั่นส์” อันลือลั่น เป็นคดีฆ่าชิงทรัพย์ธรรมดา ส่วนจะพลิกคดีกลายเป็นอย่างอื่นได้นั้น คงต้องรอดู “ไอ้บอล” ให้คำให้การในชั้นศาลต่อไปว่าจะเป็นคดีฆาตกรรมเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ตามที่ตำรวจทำสำนวนส่งให้อัยการสั่งฟ้องหรือไม่

เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอในเมืองไทย.
กำลังโหลดความคิดเห็น