เจ้าของรายการประเด็นเด็ดเจ็ดสี เข้าแจ้งความแสดงความบริสุทธิ์ ปฏิเสธ"ประสิทธิ์ อับดุลเลาะห์" นักข่าวผีไม่ได้อยู่ในสังกัด เตรียมพิจารณาดำเนินคดีกรณีแอบอ้างใช้โลโก้ของบริษัทไปอวดเบ่ง เพราะทำให้บริษัทยฯ ได้รับความเสียหาย
วันนี้ ( 4 ก.ย.) ที่ กองปราบปราม นายอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท มีเดียสตูดิโอ จำกัด เจ้าของรายการ “ประเด็นเด็ดเจ็ดสี” พร้อมด้วย นายนพดล ทับดิลก บรรณาธิการข่าวภูมิภาครายการประเด็นเด็ดเจ็ดสี เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.จิรัชชัย ศุภวิรัชบัญชา พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า นายประสิทธิ์ อับดุลเลาะห์ ที่แอบอ้างตัวว่าเป็นผู้สื่อข่าวรายการประเด็นเด็ดเจ็ดสี นั้นไม่ได้เป็นผู้สื่อข่าวพิเศษของรายการแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีที่ น.ส.รัตติยา นิมา อายุ 35 ปี น้องสาวของนายปราโมทย์ นิมา อายุ 42 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตทุ่งครุ กทม.ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายประสิทธิ์ ที่แอบอ้างตัวว่าเป็นผู้สื่อข่าวรายการประเด็นเด็ดเจ็ดสี ลงมือก่อเหตุใช้ปืนยิงข่มขู่ และมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมด้วยการเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่น และชาวบ้านใน อ.จะนะ จ.สงขลา
นายอนุพงษ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่า นายประสิทธิ์ ไม่เคยเป็นผู้สื่อข่าวของรายการประเด็นเด็ดเจ็ดสี หรือเป็นพนักงานของบริษัท มีเดียฯ แต่อย่างใด นอกจากนี้ทางรายการประเด็นเด็ดเจ็ดสี ก็ไม่เคยจัดทำเสื้อคลุมที่มีโลโก้ของรายการฯ แจกให้กับผู้สื่อข่าวและช่างภาพอีกด้วย การกระทำของบุคคลดังกล่าวที่ใส่เสื้อที่มีโลโก้รายการฯ ถือเป็นการแอบอ้างและทำให้ทางบริษัท มีเดียฯ ได้รับความเสียหาย จึงต้องขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเอาไว้ ส่วนกรณีของผู้เสียหายที่มาแจ้งความไว้ที่ บก.ป.นั้น ทางบริษัทฯ คงจะขอปรึกษากับทนายความ เพื่อตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
นายอนุพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับพฤติการณ์ของนายประสิทธิ์ ที่มีการใช้ปืนยิงข่มขู่ รวมทั้งการแอบอ้างเป็นผู้สื่อข่าวไปเรียกรับเงิน หรือผลประโยชน์ต่างๆ นั้น ทางบริษัท มีเดียฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งได้มีการชี้แจงไปแล้วว่า ทางบริษัทฯ ยืนยันว่าไม่เคยมีรายชื่อของบุคคลดังกล่าวเป็นพนักงานของบริษัทฯ
"ทั้งนี้ อยากฝากไปยังผู้ที่พบเห็นการกระทำในลักษณะนี้ของบุคคลที่แอบอ้างตัวเป็นผู้สื่อข่าว ไม่ว่าจะเป็นรายการประเด็นเด็ดเจ็ดสี หรือรายการเช้านี้ที่หมอชิต ซึ่งบริษัท มีเดียฯ เป็นผู้ผลิตรายการทั้งสอง ก็ขอให้ร้องเรียนมายังบริษัทฯ เพื่อมีการตรวจสอบในทุกกรณี" นายอนุพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการตรวจสอบว่า นายประสิทธิ์ เคยทำงานให้กับผู้สื่อข่าวพิเศษ ที่ได้รับค่าจ้างการทำข่าวเป็นรายชิ้น หรือสตริงเกอร์ นั้น นายอนุพงษ์ กล่าวว่า เราตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีชื่อบุคคลนี้เป็นพนักงานบริษัทฯ จึงเป็นการแอบอ้างทั้งหมด อย่างไรก็ดี สำหรับรายละเอียดของการทำงานในส่วนของผู้สื่อข่าวพิเศษนั้น ทางเราก็จะมีการตรวจสอบต่อไป แต่ที่ผ่านมาเราจะไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายการทำงานตรงนี้
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ทางบริษัท มีเดียฯ เคยได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมของผู้สื่อข่าวในสังกัดบ้างหรือไม่ นายอนุพงษ์ กล่าวว่า เพิ่งมีกรณีนี้เป็นรายแรกเท่านั้น ซึ่งตนทราบดีว่าเรื่องนี้กำลังอยู่ในความสนใจ เนื่องจากมีประเด็นผู้ที่แอบอ้างตัวเป็นสื่อมวลชน ไปกระทำการเรียกรับผลประโยชน์ หรือมีพฤติการณ์ที่สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของสื่อมวลชนในภาพรวม หรือแม้แต่กรณีที่เกิดขึ้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จนเป็นข่าวออกมาทางสื่อในขณะนี้
ด้าน ร.ต.อ.จิรัชชัย กล่าวว่า ได้รับเรื่องและสอบปากคำ นายอนุพงษ์ ในเบื้องต้น ก่อนจะให้ทางสิบเวรได้ลงประจำวันเอาไว้