“ธาริต” ตัดสิทธิประกันตัวอดีตเณรคำแล้ว หลังเบี้ยวเข้ามอบตัว เล็งขยายผลดำเนินคดีผู้ร่วมขบวนการที่มีพฤติกรรมเดียวกัน และปั่นคดีระหว่างการสอบสวน ลั่นรู้ที่ “สมีคำ” กบดาน
วันนี้ (17 ส.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงการติดตามจับกุมตัว นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ ว่า จนถึงขณะนี้ดีเอสไอยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือประสานว่าจะเข้ามอบตัวจากทีมทนายความ หรือผู้ประสานงานของอดีตพระเณรคำ เงื่อนไขของการให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนเมื่อผู้ต้องหาเข้ามอบตัวจึงหมดไป หลังจากนี้จึงเป็นการประสานกับต่างประเทศเพื่อจับกุมตัว และส่งตัวกลับมาดำเนินคดีเพียงอย่างเดียว ซึ่งดีเอสไอได้เตรียมการไว้หลายขั้นตอนโดยไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในการปฏิบัติงาน
พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยื่น รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า จากประสบการณ์การสอบสวนคดีฉ้อโกง พบว่า ผู้ต้องหามักจะมีลูกเล่นมากกว่าคดีอื่นๆ และไม่เข้ามอบตัวง่ายๆ โดยคดีของอดีตเณรคำก็น่าจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ ในส่วนของดีเอสไอไม่ได้ดำเนินการเพียงการติดตามตัวอดีตเณรคำเท่านั้น แต่ได้สอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการอื่นๆ ที่มีพฤติการณ์ร่วมกันหลอกลวง ฉ้อโกง และปั่นป่วนคดีที่อยู่ระหว่างการสอบสวน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดีเอสไอรู้ที่อยู่ที่แน่นอนของอดีตเณรคำแล้ว รอเพียงความพร้อมในการส่งตัวกลับมาดำเนินคดีเท่านั้น แต่เครือข่ายของอดีตเณรคำคงไม่ต้องการให้เดินทางกลับประเทศ เพราะเป็นผู้รับซุกซ่อนทรัพย์สินเงินทองไว้ หากอดีตเณรคำกลับมาก็ต้องคืนทรัพย์สินที่รับฝากไว้
ด้านสุกิจ พูลศรีเกษม ผู้ประสานงานการเข้ามอบตัวของอดีตเณรคำ เปิดเผยว่า ในวันนี้จะเดินทางไปพบอดีตเณรคำอีกครั้งเพื่อซักถามเกี่ยวกับการประสานเข้ามอบตัวก่อนหน้านี้กับดีเอสไอ ซึ่งจะครบกำหนดภายในสิ้นสัปดาห์นี้ เบื้องต้นเท่าที่ตนสอบถามอดีตเณรคำยังต้องการมอบตัว แต่เพราะผู้ใกล้ชิดหลายกลุ่มให้ความเห็น และข้อแนะนำแตกต่างกันไป ทำให้อดีตเณรคำอาจลังเลในการเข้ามอบตัว จึงต้องการไปสอบถามให้แน่ชัด เพราะที่ผ่านมา ก็ทำหน้าที่ออกหน้าประสานงานมาตั้งแต่ต้น และถือว่าดีเอสไอให้โอกาสมาพอสมควรแล้วหากอดีตเณรคำตัดสินใจไม่เดินทางเข้ามอบตัวก็คงไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้