ตำรวจเผย 13 จุดน้ำท่วมขัง กทม.พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว 150 ชุดคลี่คลายปัญหาจราจร
วันนี้ (14 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสะอาด รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.จร.ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงมาตรการอำนวยความสะดวกการจราจรกรณีฝนตกน้ำท่วมขังผิวจราจรในบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนเข้าประชุมหารือแนวทางร่วมกับ 25 หน่วยงาน
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์กล่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.มีความห่วงใยประชาชนในการสัญจรของประชาชนในฤดูฝน จึงสั่งการให้ตำรวจร่วมมือกับกับหน่วยราชการอื่นที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคเอกชน ประสานงานร่วมกัน ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า การเคลื่อนตัวของรถยนต์ภายในกรุงเทพฯ ในสภาพปกติสามารถเคลื่อนตัวได้ 21.7 ก.ม ต่อชั่วโมงแต่ในสภาพฝนตกสามารถเคลื่อนตัวได้ 20 กม.ต่อชั่วโมง ตำรวจจึงเตรียมความพร้อมโดยจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัคร 15,000 คนดูแลช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง และให้จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว 150 ชุด 88 จุดทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งในแต่ละชุดจะประกอบด้วย 1. ชุดลุยฝน 2. ชุดลุยน้ำท่วมขัง 3. ชุดช่าง 4. ชุดบริการ โดยจะประจำการอยู่ทุกสถานีตำรวจและจุดที่มีน้ำท่วมขัง 13 จุด ได้แก่ (1. ถ.พหลโยธิน กม.26 (2. ถ.พหลโยธิน หน้ากรมส่งเสริมการเกษตร (3. ถ.งามวงศ์วาน หน้าตลาดอมรพันธ์ (4. ถ.เทศบาลสงเคราะห์ วัดเสมียนนารี (5. ถ.รัชดาภิเษก หน้าห้างโรบินสัน (6. ถ.แจ้งวัฒนะ แยกหลักสี่ (7. ถ.งามวงศ์วาน แยกพงศ์เพชร (8. ถ.รามอินทรา แยกมีนบุรี (9. ถ.ศรีนครินทร์ แยกลำสำลี (10. ถ.กรุงเทพกรีฑา (11. ถ.สุขุมวิท ซ.62
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ยังกล่าวอีกว่า ตำรวจทุกนายพร้อมลงปฏิบัติในพื้นที่ และปรากฏกายให้ประชาชนเห็นเพื่อให้ประชาชนอุ่นใจว่ามีเจ้าหน้าที่คอยคลี่คลายปัญหาเมื่อเกิดปัญหาการจราจรขึ้น และเชื่อว่าชุดปฎิบัติการทั้งหมดจะสามารถบรรเทาปัญหาการจราจรได้ นอกจากนี้ อยากฝากไปถึงประชาชนก่อนออกจากบ้านให้เตรียมยานพาหนะให้พร้อม และต้องสำรวจสภาพอากาศ และสำรวจเส้นทางก่อนออกเดินทางและอยากขอความร่วมมือกับประชาชนหากพบเห็นเส้นทางใดขั้นคล่องหรือเกิดอุบัติเหตุต่างๆให้โทรศัพท์แจ้งข้อมูลได้ที่ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจจราจรได้ดำเนินการตรวจสอบและสำรวจข้อมูล 13 จุดที่มีน้ำท่วมขังมา 1 เดือน โดยเป็นการนำเอาข้อมูลเก่าและใหม่มารวมกัน เพื่อความสะดวกในการระบายน้ำท่วมขังให้เร็วขึ้น และได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละพื้นที่ผสานงานร่วมกับสำนักการระบายน้ำในการติดต่อเพื่อการระบายน้ำให้รวดเร็วยิ่งขึ้นในช่วงเวลาฝนตก
