ผบ.ตร.-ผบช.ปส.แถลงข่าวจับแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ ได้ตัวผู้ต้องหา 4 ราย ทั้งชาวไทยและไต้หวัน ยึดของกลางเป็นเฮโรอีนน้ำหนัก 237 กิโลกรัม มูลค่าเกือบ 500 ล้าน ขณะพักยาไว้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนลำเลียงส่งต่อยังประเทศฮ่องกง
วันนี้ (8 ส.ค.) ที่โรงแรมเมเปิล ถ.ศรีนครินทร์ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.สตม.ร่วมกันแถลงการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด เป็นชาวไทยและชาวไต้หวัน จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายศุภเดช บุญเจริญ อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ นายฉี ฮุง เชียง นายเหยา ซุง วู และ นายเชียง ชาย ซุน ทั้ง 3 คนสัญชาติไต้หวัน พร้อมของกลางยาเสพติดเฮโรอีนบริสุทธิ์ จำนวน 678 แท่ง น้ำหนักรวม 237 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 426 ล้านบาท รถยนต์โตโยต้าสีดำ ฟอร์จูนเนอร์ หมายเลขทะเบียน ชฉ 1389 กรุงเทพมหานคร แต่หากยาเสพติดจำนวนนี้ถูกส่งออกต่อไปยังประเทศที่สาม เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และ ไต้หวัน จะมีมูลค่าสูงกว่า 20 เท่า
พล.ต.ต.รณศิลป์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าจะมีการส่งมอบเฮโรอีนจำนวนมาก เพื่อส่งไปยังประเทศฮ่องกง จึงมีการเฝ้าติดตามพฤติกรรมกลุ่มผู้ต้องหามาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งพบ นายศุภเดช ขับรถยนต์โตโยต้าสีดำ ฟอร์จูนเนอร์ ของกลางไปรับเฮโรอีนจาก อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ลำเลียงมาจาก จ.เชียงราย เพื่อนำมาพักไว้ที่ จ.อยุธยา ก่อนที่ นายศุภเดช จะไปรับของกลางมาพักไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านซอยลาซาล แต่กลุ่มผู้ต้องหาไหวตัวทันว่าถูกตำรวจติดตาม จึงนำของกลางบรรจุใส่กระเป๋าเดินทางจำนวน 6 ใบ มาเปิดโรงแรมเมเปิล ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว พร้อมขยายผลจับผู้ต้องหาชาวไต้หวันที่นัดส่งมอบของกลางได้อีก 3 คน
จากการสอบสวน นายศุภเดช ให้การอ้างว่าทำเป็นครั้งแรก และได้ค้าจ้าง 1 ล้านบาท โดยชาวไต้หวันจะทำหน้าที่รับของกลางทั้งหมดขึ้นเครื่องบินผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเที่ยวบิน HK 772 เวลา 12.30 น.วันนี้ (8 ส.ค.) มีปลายทางที่ประเทศฮ่องกง แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ก่อน นอกจากนี้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ที่ใช้ในการขนยาเสพติดในครั้งนี้ ผู้ต้องหาทำการขโมยมาจาก จ.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบอีกครั้งว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นคันเดียวกันกับที่มีการแจ้งความหายไว้ที่จังหวัดนครราชสีมาหรือไม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบรองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป