ทนายเสื้อแดงโร่ร้องดีเอสไอ เอาผิด “มัลลิกา” โพสต์รูปนายกฯคู่ป้าย เสือ สิงห์ กระทิง “ธาริต” อ้าแขนรับเป็นคดีพิเศษ ลั่นไม่ได้รับใช้การเมือง ชี้นายกฯ เป็นตำแหน่งสำคัญ
วันนี้ (14 ส.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เดินทางเข้าพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปปัตย์ (ปชป.) และผู้ร่วมกระทำความผิด
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9-10 ส.ค. 56 ที่ น.ส.มัลลิกาได้โพสต์รูปถ่ายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนคู่กับป้ายอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ขณะเดินทางไปอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันต์ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมาเพื่อดูช้างป่า และฝูงกระทิงจำนวนมากที่บริเวณจุดชมวิว โดยภาพที่โพสต์นั้นเป็นรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนคู่กับป้ายจุดชมวิวซึ่งมีคำว่า เสือ สิงห์ กระทิง และมีภาพของนายกรัฐมนตรียืนข้างป้ายถัดจากคำว่ากระทิง และน่าเชื่อว่าเป็นภาพตัดต่อ ซึ่งความจริงแล้วป้ายที่นายกฯ ถ่ายคู่นั้นมีข้อความระบุว่าจุดชมช้างป่า กระทิง อุทยานฯ
นายธาริตกล่าวว่า จะรับกรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษเนื่องจากอยู่ใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นกฏหมายแนบท้ายของดีเอสไอ และถ้าดีเอสไอไม่ดำเนินการก็คงไม่มีหน่วยงานไหนดำเนินการ ทั้งนี้เมื่อมีการร้องทุกข์กล่าวโทษอย่างชัดเจน เราก็จะรับไว้เป็นคดีพิเศษ แน่นอน เพราะว่าบุคคลในภาพที่ได้รับความเสียหายเพราะเป็นถึงนายกรัฐมนตรี และไม่ว่า น.ส.มัลลิกาจะเป็นคนตกแต่งข้อความด้วยตนเองหรือเป็นคนส่งต่อก็ผิดมาตรา 14 ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นคดีนี้ค่อนข้างที่จะชัดเจนในเรื่องของการกระทำความผิด อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอไม่ได้รับใช้การเมืองแต่ว่าประมุขของประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรีถูกกระทำอย่างนี้และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นคดีในความรับผิดชอบของดีเอสเอสไอเราจึงต้องดำเนินการ ทั้งนี้ตนได้มอบหมายเรื่องนี้ให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ดูแลรับผิดชอบคดีนี้
เมื่อถามว่า ทำไมผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษไม่ไปร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) นายวิญญัติกล่าวว่า อย่างที่อธิบดีดีเอสไอและตนกล่าวว่าไปว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำของประเทศเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญต่อประเทศชาติ นอกจากเราจะมาแสดงออกให้เห็นว่าการกระทำดังกล่าวนอกจากปกป้องสิทธิของนายกฯ แล้วเรายังต้องการป้องปราบบุคคลที่กระทำเช่นนี้ด้วย เนื่องจากทุกวันนี้มีคนใช้สื่อโซเชียลเน็ตเวิรค์มากซึ่งเป็นเรื่องที่อันตราย บางทีทำไปอาจไม่รู้ตัวว่าผิด และที่ไม่ไปร้องทุกข์กล่าวโทษที่ ปอท.เพราะว่าตำแหน่งนายกฯมีความสำคัญและดีเอสไอมีศักยภาพในการดำเนินการเรื่องนี้ ที่สำคัญกฏหมายได้ให้อำนาจดีเอสไอไว้ด้วย
