สตช.อุ้ม “ผบช.น.” ผิดประมวลจริยธรรมข้าราชการบินไปให้ “นช.ทักษิณ” ติดยศที่ต่างประเทศ หลังจากเลยกำหนด 30 วันพิจารณาความผิดส่งกลับไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าข่ายบกพร่องต่อหน้าที่ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สนง.ผู้ตรวจฯ เร่งหารือพิจารณาหาทางจัดการ!
จากกรณีที่สำนักงานผู้ตรววจการแผ่นดินได้มีมติส่งเรื่องพิจารณาดำเนินการขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดำเนินการตรวจสอบตามประมวลจริยธรรมของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นนักโทษหลบหนีคดี จึงมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ทำให้เสื่อมเสียเกียรติยศข้าราชการตำรวจผู้ซึ่งมีหน้าที่รักษากฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา โดยมีกรอบระยะเวลาในการพิจารณา 30 วัน ต้องส่งเรื่องกลับมาสยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนี้ (14 ส.ค.) แหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่าหลังจากที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นได้ส่งหนังสือขอให้ดำเนินการตรวจสอบตามประมวลจริยธรรมของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ภายใน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บังคับบัญชา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดแล้ว จวบจนถึงทุกวันนี้เวลาล่วงเลยยมากว่า 30 วัน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยังไม่มีการส่งหนังสือแจ้งการดำเนินการใด ๆ กลับมายังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
แหล่งข่าวรายเดิมยังระบุด้วยว่า ในกรณีนี้ทำให้เห็นได้ว่าทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานยตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พกบร่องต่อหน้าหน้าที่ เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 56 นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ออกมากล่าวยืนยันว่าทางผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีมติส่งเรื่องขอให้ดำเนินการตรวจสอบตามประมวลจริยธรรมของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ภายใน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บังคับบัญชา และหน่วยงานต่างๆ แล้ว พร้อมให้ชี้แจงมายังผู้ตรวจการแผ่นดินทราบอีกครั้ง ตามกรณีที่มีผู้ร้องขอให้ตรวจสอบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ในฐานะผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นนักโทษหลบหนีคดี จึงมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ทำให้เสื่อมเสียเกียรติยศ
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะมีการช่วยเหลือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเหมือนกันนั้น นายรักษเกชากล่าวว่า ทางผู้ตรวจการแผ่นดินไม่คิดเช่นนั้น เพราะทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งหากหน่วยงานต้นสังกัดเพิกเฉยในเรื่องนี้ ทางผู้ตรวจการแผ่นดินก็ต้องนำเรื่องมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร
